สธ.ออกบัญญัติสุข 10ประการ สูตรสร้างสุขปี61

สธ.2 ม.ค.-กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แนะสูตรความสุข 10 ข้อสำหรับคนไทยเป็นแนวปฏิบัติในปี 2561 อาทิ ออกกำลังกายเป็นประจำ-ฝึกหายใจคลายเครียด-ฝึกมองโลกแง่ดี-มีเวลาให้ครอบครัว-เอ่ยปากชื่นชมคนรอบข้างอย่างจริงใจ การันตีชีวิตจะยืนยาว มีความสุข มีรอยยิ้ม และจิตใจดีขึ้น     


น.ต.นพ.บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า  ในปีใหม่2561นี้  ประชาชนไทยส่วนใหญ่จะถือเป็นฤกษ์ดีในการดำเนินชีวิตใหม่ ซึ่งกรมสุขภาพจิตได้จัดทำบัญญัติสุข 10 ประการ เป็นสูตรแห่งความสุขของคนไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศและข้อคิดเห็นจากปราชญ์ชาวบ้าน  เพื่อใช้เป็นแนวทางสร้างความสุขในชีวิตทั้งในระดับส่วนบุคคล ครอบครัวและชุมชน โดยข้อมูลการศึกษาวิจัยยืนยันว่าความสุขของคนเรานั้น ครึ่งหนึ่งถูกกำหนดโดยพันธุกรรม อีกร้อยละ 40 เป็นผลมาจากวิธีคิดและกิจกรรมที่ทำ และประมาณร้อยละ 10 เกิดขึ้นจากสถานการณ์ชีวิตในขณะนั้น  ดังนั้นเราจึงสามารถเติมความสุขให้ชีวิตด้วยการปรับวิธีคิดและเลือกทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสุขได้ จากบัญญัติสุข 10 ประการ มีดังนี้


1.ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย  30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง  ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใสมีสมาธิ การตัดสินใจดีขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ระบบประสาทอัตโนมัติผ่อนคลาย สร้างและซ่อมแซมเซลล์สมองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพิ่มความสามารถทำงานของสมอง  ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น นอนหลับอย่างมีคุณภาพ เพิ่มสรรถภาพทางเพศ  ลดความกังวลและลดซึมเศร้า ผลการวิจัยพบว่าการเดินออกกำลังกายทุก 1นาที จะช่วยยืดอายุขัยของชีวิตได้ถึง 2 นาที  การออกกำลังกายให้ถือหลักว่า ทำได้แค่ไหน ให้ทำแค่นั้น และเลือกกิจกรรมที่เราสนุกสนาน เพลิดเพลิน อาจทำเองคนเดียวหรือทำกับเพื่อนก็ได้   


2.ค้นหาจุดแข็งความถนัดและศักยภาพตัวเอง และพัฒนาจนเป็นความ สำเร็จ เป็นภารกิจที่สำคัญของชีวิตทุกกลุ่มอายุ จะช่วยนำพาสิ่งที่ดีที่สุดภายในตัวเราออกมาใช้ประโยชน์ สร้างความสำเร็จและความภาคภูมิใจ จุดแข็งจัดเป็นคุณลักษณะด้านดีของบุคคล เช่นความอดทน ความอยากรู้อยากเห็น เป็นต้น ส่วนความถนัดเป็นความสามารถเฉพาะด้าน เช่นถนัดทางดนตรี การคิดวิเคราะห์ การใช้ภาษา เป็นต้น ส่วนศักยภาพภายใน เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน  หากเป็นพ่อแม่ การมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกก็คือการช่วยเขาค้นพบตัวเอง ค้นพบจุดแข็ง ความถนัดและศักยภาพ เพื่อวางแผนชีวิตที่ดี เป็นหลักประกันความสุขที่ยั่งยืนในอนาคต  

3.ฝึกการหายใจคลายเครียด ทำทุกครั้งเมื่อเจอปัญหาหรือรู้สึกตึงเครียด  จะทำให้การคิดแก้ปัญหาต่างๆ ดีขึ้น มีหลักง่ายๆ 3 ข้อ คือการหายใจสบายๆอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หายใจออกให้ยาวขึ้นโดยรู้ตัว  การหายใจออกให้ยาวกว่าการหายใจเข้า ประมาณ 2 เท่า เช่นนับเลข 1-2-3-4 เมื่อหายใจเข้า  และกลั้นไว้ จากนั้นนับเลข 1-2-3-4-5-6-7-8 เมื่อหายใจออก  และการหายใจโดยวางความรู้สึกไว้ที่ท้องขณะหายใจออก จะรับรู้ได้ว่าท้องแฟบ   

4.คิดทบทวนสิ่งดีๆในชีวิตและฝึกมองโลกในแง่ดี  เป็นการฝึกฝนตัวเองให้รู้จักมองเห็นสิ่งดีที่เกื้อหนุนชีวิต ช่วยให้มีกำลังใจและมีความสุข  ควรทำเป็นประจำ ด้วยการตั้งคำถามตัวเองว่าวันนี้ /สัปดาห์นี้มีสิ่งดีๆอะไรเกิดขึ้นบ้างอย่างน้อย 5 เรื่อง ส่วนการฝึกมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้เรามองเห็นปัญหาและเห็นโอกาสที่แฝงมากับปัญหา ช่วยให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น  โดยให้ตั้งคำถามเมื่อพบปัญหาว่า ปัญหานี้มีแง่ดีอะไรบ้าง พยายามเปิดใจรับความคิดใหม่ๆ ที่ช่วยเรามองเห็นบทเรียนชีวิตที่ได้จากปัญหา   

5.บริหารเวลาให้สมดุลระหว่างการงาน สุขภาพและครอบครัว การงานเปิดโอกาสให้เราใช้ศักยภาพ สร้างความสำเร็จ สร้างรายได้  มีสังคม มีเพื่อน ส่วนสุขภาพทั้งกายและจิตใจ เป็นทุนสำคัญของชีวิต  หากเจ็บป่วยเราก็จะไม่มีความสุข  และครอบครัวเป็นแหล่งกำลังใจและความสุขที่สำคัญในชีวิตคนเรา  ควรวางแผนใช้เวลาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เพิ่มเวลาให้กับเรื่องที่มีความสำคัญ ลดเวลาในเรื่องที่ไม่สำคัญหรือสำคัญน้อยกว่า  

6.คิดและจัดการปัญหาเชิงรุกด้วยสติและปัญญา ไม่ปล่อยให้ปัญหาต่างๆที่เข้ามากำหนดความเป็นไปของชีวิต  ควรจัดเวลาทำความเข้าใจยอมรับปัญหาและคิดหาทางเลือกในการก้าวเดินอย่างเป็นขั้นตอน  จะช่วยให้เกิดความรู้สึกว่าเรายังตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ จัดการชีวิตได้ ไม่เสียเวลาไปกับการคิดกังวลเกินควร 

7.มองหาโอกาสในการมอบสิ่งดีๆให้ผู้อื่นเป็นการสร้างความสุขใจที่ลึกซึ้ง เมื่อเราช่วยผู้อื่นให้เป็นสุข ตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย  กิจกรรมที่เป็นแหล่งความสุขอย่างดีคือกิจกรรมอาสาสมัคร  มีงานวิจัยพบว่าคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น จะมีชีวิตยืนยาวขึ้น 

8.ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนศาสนาจะได้รับประโยชน์คือมีสังคม มีจุดหมายทำสิ่งต่างๆมากขึ้น หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเช่น ดื่มสุรา ใช้สารเสพติด และเข้าใจชีวิต มีความพอใจชีวิต มีอารมณ์ดีกว่า ส่งผลให้อัตราการหย่าร้างต่ำกว่า และมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่สนใจคำสอนศาสนา   อีกทั้งยังช่วยบ่มเพาะความเมตตากรุณาในใจด้วย    

9.ให้เวลาและทำกิจกรรมความสุขร่วมกับสมาชิกในครอบครัวเป็นประจำ  ควรยอมรับข้อจำกัดซึ่งกันและกัน  ฝึกรับฟังอย่างใส่ใจลดเวลาดูทีวีลงและจัดเวลาทำกิจกรรมร่วมกันช่วยกันทำงานบ้าน อย่าให้ความสำคัญเงินทองและวัตถุมากเกินไปอย่าตำหนิลูกในทุกความผิดพลาด 

และ10. ชื่นชมคนรอบข้างอย่างจริงใจ เป็นการฝึกจิตใจมองเห็นด้านดีของมนุษย์มองเห็นสิ่งดีในชีวิต กล่าวคำชื่นชมด้วยความจริงใจทุกครั้งที่มีโอกาส คำชื่นชมของเราจะเพิ่มกำลังใจ เติมความสุขและเสริมให้เขาทำสิ่งดีๆยิ่งขึ้นและฝึกการชื่นชมตัวเองด้วย 

“ในแต่ละบัญญัติมีประโยชน์ในการเติมความสุขในแง่มุมที่ต่างกัน วิธีการปฏิบัติอาจเลือกปฏิบัติตามบัญญัติที่รู้สึกว่าเหมาะกับตนเองหรือเลือกบัญญัติที่ยังไม่คุ้นเคยก่อน เพื่อเรียนรู้และเติมสุขในรูปแบบใหม่ๆ แล้วจึงขยายผลไปเรื่อยๆ จนครบ10 ประการจะเกิดผลดีอย่างมากในการเสริม สร้างให้ตนเองมีสุขภาพจิตดีและเมื่อสุขภาพจิตดีสุขภาพกายจะดีตามไปด้วย”  อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]