สธ.ออกบัญญัติสุข 10ประการ สูตรสร้างสุขปี61

สธ.2 ม.ค.-กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แนะสูตรความสุข 10 ข้อสำหรับคนไทยเป็นแนวปฏิบัติในปี 2561 อาทิ ออกกำลังกายเป็นประจำ-ฝึกหายใจคลายเครียด-ฝึกมองโลกแง่ดี-มีเวลาให้ครอบครัว-เอ่ยปากชื่นชมคนรอบข้างอย่างจริงใจ การันตีชีวิตจะยืนยาว มีความสุข มีรอยยิ้ม และจิตใจดีขึ้น     


น.ต.นพ.บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า  ในปีใหม่2561นี้  ประชาชนไทยส่วนใหญ่จะถือเป็นฤกษ์ดีในการดำเนินชีวิตใหม่ ซึ่งกรมสุขภาพจิตได้จัดทำบัญญัติสุข 10 ประการ เป็นสูตรแห่งความสุขของคนไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศและข้อคิดเห็นจากปราชญ์ชาวบ้าน  เพื่อใช้เป็นแนวทางสร้างความสุขในชีวิตทั้งในระดับส่วนบุคคล ครอบครัวและชุมชน โดยข้อมูลการศึกษาวิจัยยืนยันว่าความสุขของคนเรานั้น ครึ่งหนึ่งถูกกำหนดโดยพันธุกรรม อีกร้อยละ 40 เป็นผลมาจากวิธีคิดและกิจกรรมที่ทำ และประมาณร้อยละ 10 เกิดขึ้นจากสถานการณ์ชีวิตในขณะนั้น  ดังนั้นเราจึงสามารถเติมความสุขให้ชีวิตด้วยการปรับวิธีคิดและเลือกทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสุขได้ จากบัญญัติสุข 10 ประการ มีดังนี้


1.ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย  30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง  ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใสมีสมาธิ การตัดสินใจดีขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ระบบประสาทอัตโนมัติผ่อนคลาย สร้างและซ่อมแซมเซลล์สมองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพิ่มความสามารถทำงานของสมอง  ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น นอนหลับอย่างมีคุณภาพ เพิ่มสรรถภาพทางเพศ  ลดความกังวลและลดซึมเศร้า ผลการวิจัยพบว่าการเดินออกกำลังกายทุก 1นาที จะช่วยยืดอายุขัยของชีวิตได้ถึง 2 นาที  การออกกำลังกายให้ถือหลักว่า ทำได้แค่ไหน ให้ทำแค่นั้น และเลือกกิจกรรมที่เราสนุกสนาน เพลิดเพลิน อาจทำเองคนเดียวหรือทำกับเพื่อนก็ได้   


2.ค้นหาจุดแข็งความถนัดและศักยภาพตัวเอง และพัฒนาจนเป็นความ สำเร็จ เป็นภารกิจที่สำคัญของชีวิตทุกกลุ่มอายุ จะช่วยนำพาสิ่งที่ดีที่สุดภายในตัวเราออกมาใช้ประโยชน์ สร้างความสำเร็จและความภาคภูมิใจ จุดแข็งจัดเป็นคุณลักษณะด้านดีของบุคคล เช่นความอดทน ความอยากรู้อยากเห็น เป็นต้น ส่วนความถนัดเป็นความสามารถเฉพาะด้าน เช่นถนัดทางดนตรี การคิดวิเคราะห์ การใช้ภาษา เป็นต้น ส่วนศักยภาพภายใน เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน  หากเป็นพ่อแม่ การมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกก็คือการช่วยเขาค้นพบตัวเอง ค้นพบจุดแข็ง ความถนัดและศักยภาพ เพื่อวางแผนชีวิตที่ดี เป็นหลักประกันความสุขที่ยั่งยืนในอนาคต  

3.ฝึกการหายใจคลายเครียด ทำทุกครั้งเมื่อเจอปัญหาหรือรู้สึกตึงเครียด  จะทำให้การคิดแก้ปัญหาต่างๆ ดีขึ้น มีหลักง่ายๆ 3 ข้อ คือการหายใจสบายๆอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หายใจออกให้ยาวขึ้นโดยรู้ตัว  การหายใจออกให้ยาวกว่าการหายใจเข้า ประมาณ 2 เท่า เช่นนับเลข 1-2-3-4 เมื่อหายใจเข้า  และกลั้นไว้ จากนั้นนับเลข 1-2-3-4-5-6-7-8 เมื่อหายใจออก  และการหายใจโดยวางความรู้สึกไว้ที่ท้องขณะหายใจออก จะรับรู้ได้ว่าท้องแฟบ   

4.คิดทบทวนสิ่งดีๆในชีวิตและฝึกมองโลกในแง่ดี  เป็นการฝึกฝนตัวเองให้รู้จักมองเห็นสิ่งดีที่เกื้อหนุนชีวิต ช่วยให้มีกำลังใจและมีความสุข  ควรทำเป็นประจำ ด้วยการตั้งคำถามตัวเองว่าวันนี้ /สัปดาห์นี้มีสิ่งดีๆอะไรเกิดขึ้นบ้างอย่างน้อย 5 เรื่อง ส่วนการฝึกมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้เรามองเห็นปัญหาและเห็นโอกาสที่แฝงมากับปัญหา ช่วยให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น  โดยให้ตั้งคำถามเมื่อพบปัญหาว่า ปัญหานี้มีแง่ดีอะไรบ้าง พยายามเปิดใจรับความคิดใหม่ๆ ที่ช่วยเรามองเห็นบทเรียนชีวิตที่ได้จากปัญหา   

5.บริหารเวลาให้สมดุลระหว่างการงาน สุขภาพและครอบครัว การงานเปิดโอกาสให้เราใช้ศักยภาพ สร้างความสำเร็จ สร้างรายได้  มีสังคม มีเพื่อน ส่วนสุขภาพทั้งกายและจิตใจ เป็นทุนสำคัญของชีวิต  หากเจ็บป่วยเราก็จะไม่มีความสุข  และครอบครัวเป็นแหล่งกำลังใจและความสุขที่สำคัญในชีวิตคนเรา  ควรวางแผนใช้เวลาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เพิ่มเวลาให้กับเรื่องที่มีความสำคัญ ลดเวลาในเรื่องที่ไม่สำคัญหรือสำคัญน้อยกว่า  

6.คิดและจัดการปัญหาเชิงรุกด้วยสติและปัญญา ไม่ปล่อยให้ปัญหาต่างๆที่เข้ามากำหนดความเป็นไปของชีวิต  ควรจัดเวลาทำความเข้าใจยอมรับปัญหาและคิดหาทางเลือกในการก้าวเดินอย่างเป็นขั้นตอน  จะช่วยให้เกิดความรู้สึกว่าเรายังตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ จัดการชีวิตได้ ไม่เสียเวลาไปกับการคิดกังวลเกินควร 

7.มองหาโอกาสในการมอบสิ่งดีๆให้ผู้อื่นเป็นการสร้างความสุขใจที่ลึกซึ้ง เมื่อเราช่วยผู้อื่นให้เป็นสุข ตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย  กิจกรรมที่เป็นแหล่งความสุขอย่างดีคือกิจกรรมอาสาสมัคร  มีงานวิจัยพบว่าคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น จะมีชีวิตยืนยาวขึ้น 

8.ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนศาสนาจะได้รับประโยชน์คือมีสังคม มีจุดหมายทำสิ่งต่างๆมากขึ้น หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเช่น ดื่มสุรา ใช้สารเสพติด และเข้าใจชีวิต มีความพอใจชีวิต มีอารมณ์ดีกว่า ส่งผลให้อัตราการหย่าร้างต่ำกว่า และมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่สนใจคำสอนศาสนา   อีกทั้งยังช่วยบ่มเพาะความเมตตากรุณาในใจด้วย    

9.ให้เวลาและทำกิจกรรมความสุขร่วมกับสมาชิกในครอบครัวเป็นประจำ  ควรยอมรับข้อจำกัดซึ่งกันและกัน  ฝึกรับฟังอย่างใส่ใจลดเวลาดูทีวีลงและจัดเวลาทำกิจกรรมร่วมกันช่วยกันทำงานบ้าน อย่าให้ความสำคัญเงินทองและวัตถุมากเกินไปอย่าตำหนิลูกในทุกความผิดพลาด 

และ10. ชื่นชมคนรอบข้างอย่างจริงใจ เป็นการฝึกจิตใจมองเห็นด้านดีของมนุษย์มองเห็นสิ่งดีในชีวิต กล่าวคำชื่นชมด้วยความจริงใจทุกครั้งที่มีโอกาส คำชื่นชมของเราจะเพิ่มกำลังใจ เติมความสุขและเสริมให้เขาทำสิ่งดีๆยิ่งขึ้นและฝึกการชื่นชมตัวเองด้วย 

“ในแต่ละบัญญัติมีประโยชน์ในการเติมความสุขในแง่มุมที่ต่างกัน วิธีการปฏิบัติอาจเลือกปฏิบัติตามบัญญัติที่รู้สึกว่าเหมาะกับตนเองหรือเลือกบัญญัติที่ยังไม่คุ้นเคยก่อน เพื่อเรียนรู้และเติมสุขในรูปแบบใหม่ๆ แล้วจึงขยายผลไปเรื่อยๆ จนครบ10 ประการจะเกิดผลดีอย่างมากในการเสริม สร้างให้ตนเองมีสุขภาพจิตดีและเมื่อสุขภาพจิตดีสุขภาพกายจะดีตามไปด้วย”  อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]