นายกฯ เดินหน้าแก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อย

ทำเนียบ 1 ม.ค.-นายกฯ เดินหน้ามาตรการและโมเดลต่างๆ แก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อย คาดหวังให้ประชารัฐ เกิดการรวมกลุ่มของเอกชนรายใหญ่ เพื่อพัฒนาสิ่งที่ดีกับประชาชน 


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ในปี 2561 เป็นปีที่มาตรการต่างๆของรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะการดูแลผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้ปานกลาง ทั้งหมดถือเป็นความแตกต่างทางรายได้ และเป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลต้องแก้ไข

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการและโมเดลต่างๆ เช่น โมเดลกาฬสินธุ์ ก็จะต้องลงไปดูรายละเอียดและสอบถามว่าเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาบางอย่าง รัฐก็เดินหน้าได้อย่างจำกัด ดังนั้นหวังว่าจะต้องเดินหน้าประชารัฐให้ดีขึ้น ภาคธุรกิจและภาคเอกชนจะต้องมารวมกลุ่มกันอย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่ทำให้มองว่าจะมาเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะถ้าทุกกลุ่มรวมตัวกัน และไปช่วยเหลือประชาชนก็น่าจะทำได้ดี ทั้งการดูแลเรื่องที่ดินและการประกอบกิจการ เพื่อให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ดีขึ้น แต่ไม่ได้เป็นการผูกขาด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความคาดหวังของตนในอนาคต


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ขณะนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มีการลงทุนและการก่อสร้างต่างๆ และตนเองมีความหวังว่าอยากให้เกิด การพัฒนาเมืองรูปแบบใหม่ หรือ สมาร์ทซิตี้ ซึ่งได้กำหนดไว้ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยให้เป็นพื้นที่ดำเนินการทุกอย่างได้เบ็ดเสร็จตรงนั้น ซึ่งวันนี้เอกชนรายใหญ่ทั้งหมดจะต้องรวมตัวกัน เพราะถ้าแบ่งแยกกลุ่ม จะกลายเป็นแข่งขันกันไปทั้งหมด และเมื่อเกิดการแข่งขันและใครสายป่านยาว ก็จะได้ไป ดังนั้นจะมารวมกันได้หรือไม่ ซึ่งตนเองกำลังคิดอยู่ว่ากฎหมายจะทำอย่างไรถึงสามารถทำได้ และจะต้องเกิดสมาร์ทซิตี้โดยเร็ว และประชาชนจะต้องเข้าใจว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร และต้องคิดว่าประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์หรือไม่ ซึ่งการจะทำอะไรก็ตาม ต้องมีการลงทุน มีระยะเวลา และเกิดความเป็นธรรม ให้ทั้งรัฐ เอกชนและประชาชนได้ประโยชน์ เพราะไม่มีใครอยากทำกิจการที่ไม่มีผลกำไร

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้ทุกคนดูแลเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วถึง 35 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าตนเข้ามาบ้านเมืองมีความสงบสุข ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแตกต่างกับในอดีต และทำให้ประชาชนเกิดรายได้เพิ่มขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้