กอช.ตั้งเป้าสมาชิกปีหน้า 1.2 ล้านคน

กรุงเทพฯ  28 ธ.ค. – กอช.มอบของขวัญปีใหม่ จับมือหน่วยงานรัฐ 10 แห่ง เพิ่มสิทธิประโยชน์สมาชิก ยกระดับอำนวยความสะดวกให้ผู้สนใจออม ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกปีหน้าเป็น 1.2 ล้านบาท


นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมความร่วมมือการออมกับ กอช. ที่มีหน่วยงานรัฐ 10 แห่ง เข้าร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ ได้แก่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการและให้ความรู้เกี่ยวกับการออมเงิน การวางแผนการเงินเพื่อยามวัยเกษียณ ให้ประชาชนตระหนักและสนใจสมัครเป็นสมาชิกกับ กอช. รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ กอช. เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กอช. 

นายสมชัย กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและบริการของ กอช.มากขึ้น นำไปสู่การออมอย่างต่อเนื่องโดยมีรัฐช่วยออม พร้อมรับบำนาญจากรัฐ เพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินในยามวัยเกษียณ เช่นเดียวกับระบบบำนาญข้าราชการ หรือพนักงานในระบบที่มีนายจ้างดูแล ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ ให้ได้รับสวัสดิการด้านบำนาญจากรัฐอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังดูแลผู้ที่เป็นสมาชิก กอช.ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ เพื่อฝึกทักษะอาชีพ สร้างรายได้ ทำให้มีเงินไว้ออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งทั้งหมด กอช.ขอมอบเป็นของขวัญให้ประชาชนเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2561 


นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รักษาการแทนเลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการส่งเงินสะสมของสมาชิกปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่   1 มกราคม – 24 ธันวาคม 2560 มีสมาชิกส่งเงินสะสมต่อเนื่องเฉลี่ย 2.18 ล้านบาทต่อวัน โดยมีข้อมูลน่าสนใจพบว่าเฉพาะวันที่ 25–26 ธันวาคม 2560 เพียง 2 วัน มีสมาชิกส่งเงินสะสมต่อเนื่อง รวมประมาณ 12.6 ล้านบาท เฉลี่ย 6.3 ล้านบาทต่อวัน  สะท้อนให้เห็นถึงสมาชิก กอช. ยังมีความสนใจและมั่นใจที่จะส่งเงิน ทั้งนี้ คาดว่าการลงนามครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญให้มีประชาชนโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา และแรงงานนอกระบบ เช่น อาชีพค้าขาย อาชีพอิสระ เข้ารับสิทธิ์ได้บำนาญจากรัฐ โดยเป็นสมาชิก กอช.เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านคน ภายในปี 2561 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากสถานะกองทุนฯ วันที่ 15 ธันวาคม 2560 ที่มีสมาชิกรวม 529,663 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ