สุวรรณภูมิแจงครอบครัวเด็กน้อยซิมบับเวรอลี้ภัย

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – ท่าอากาศสุวรรณภูมิชี้แจงกรณีเด็กน้อยพร้อมครอบครัวชาวซิมบับเวเดินทางกลับประเทศไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบภายในประเทศ ทำให้ต้องติดค้างอยู่ในสนามบินนาน 3 เดือน 


นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 และนางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบพบกลุ่มครอบครัวชาวซิมบับเว ประกอบด้วยผู้ใหญ่ 4 คน เป็นชาย 2 หญิง 2 และเด็กอีก 4 คน เป็นเด็กชาย 3 เด็กหญิง 1 คน อายุตั้งแต่ 2 , 6 , 7 และ 11 ขวบ ที่อยู่ในการดูแลของสายการบินภายในเขตอาคารผู้โดยสารชั้นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายกิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวชาวซิมบับเวที่พบเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ต่อมาขอเดินทางออกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2560 ด้วยสายการบินยูเครนเพื่อเดินทางไปเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน แต่จากการตรวจสอบสายการบินดังกล่าว พบว่าผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่มีวีซ่าเข้าประเทศสเปน จึงปฏิเสธการขึ้นเครื่อง และให้เจ้าหน้าที่ของสายการบินพาคนต่างชาติกลุ่มนี้มาพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อยกเลิกการเดินทาง แต่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า บุคคลกลุ่มดังกล่าวมีสถานะอยู่ในประเทศไทยเกินกำหนดถึง 5 เดือน 


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่ไม่สามารถอนุญาตให้กลับเข้าประเทศได้ จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมือง โดยให้สายการบินยูเครนรับตัวผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวกลับประเทศซิมบับเวซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิด แต่ปรากฏว่าผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่ยินยอมเดินทางกลับซิมบับเว เนื่องจากเกรงอันตรายจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ ต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้โดยสารกลุ่มนี้ซื้อตั๋วเดินทางไปประเทศมอนนิโทเรีย โดยผ่านประเทศยูเครน-สเปน-มอนนิโทเรีย แต่เมื่อผู้โดยสารกลุ่มนี้ขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมิไปถึงประเทศยูเครนแล้ว ไม่สามารถเดินทางต่อจากประเทศยูเครนไปยังสเปนได้ วันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้โดยสารกลุ่มนี้จึงถูกส่งตัวจากยูเครนมายังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยกลุ่มผู้โดยสารนี้ยังคงอยู่ในการดูแลของสายการบิน จากนั้นผู้โดยสารได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปยังยูเอ็นและทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับสำเนาหนังสือของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติถึงอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ มีใจความสำคัญสรุปว่า กลุ่มชาวต่างชาติดังกล่าวเป็นผู้ที่ได้รับการลงทะเบียนผู้แสวงหาที่ลี้ภัยและมีความเสี่ยงประสบภัยในประเทศมาตุภูมิ ซึ่งทางยูเอ็นกำลังดำเนินการในขั้นตอนผู้ลี้ภัย โดยยังคงอยู่ในการดูแลของสายการบินเยี่ยงผู้โดยสารปกติและไม่ได้ควบคุมในห้อง Detention room ของสายการบินเช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่ถูกปฏิเสธผลักดันกลับประเทศแต่อย่างใด และจากการติดตามความคืบหน้า ทราบว่ายูเอ็นส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล สัมภาษณ์ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการผู้ลี้ภัย โดยคงจะมีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย