ผลสำรวจประชาชนฐานรากใช้จ่ายปีใหม่ 57,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ  28 ธ.ค. – ธนาคารออมสินเผยผลสำรวจค่าใช้จ่ายของประชาชนฐานรากในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่ามีการใช้จ่าย 57,000 ล้านบาท เฉลี่ยคนละ 3,765 บาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ 


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้ทำการสำรวจการใช้จ่ายของประชาชนฐานรากในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาททั่วประเทศ 1,849 ตัวอย่าง พบว่า ภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนระดับฐานรากในช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 57,000 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 3,765 บาท ซึ่งปัจจัยสนับสนุนที่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนระดับฐานรากให้มีบรรยากาศที่คึกคักนั้น ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการภาครัฐที่ออกมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี โครงการประชารัฐสวัสดิการ ประกอบกับการประกาศให้มีวันหยุดราชการติดต่อกัน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เมื่อเปรียบเทียบรายได้และค่าใช้จ่ายกับช่วงปีใหม่ของ  ปีก่อน พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 51.2 มีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่ร้อยละ 51.1  มีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม

สำหรับแหล่งที่มาของเงินที่นำมาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่มาจากรายได้ ร้อยละ 51.4 เงินออม ร้อยละ 36.3 เงินกู้ยืม ซึ่งมีทั้งเงินกู้นอกระบบและในระบบ ร้อยละ 7.5 และเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ร้อยละ 4.8 เมื่อสำรวจลักษณะการทำกิจกรรมและการจับจ่ายใช้สอยเฉลี่ยต่อคนในช่วงเทศกาลปีใหม่  พบว่า กิจกรรม 3 อันดับแรกที่ประชาชนระดับฐานรากนิยม คือ ทำบุญ/ไหว้พระ/สวดมนต์ ร้อยละ 75.4 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 700 บาท สังสรรค์ เลี้ยงฉลอง ร้อยละ 46.6 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,280 บาท และซื้อของขวัญ/ ของฝาก และให้เงินคนในครอบครัว ร้อยละ 46.3 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,200 บาท และ 1,900 บาท ตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดและกลับภูมิลำเนาเยี่ยมญาติ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้รับสวัสดิการ ค่าเดินทางจากโครงการประชารัฐสวัสดิการ


ส่วนของขวัญของฝากที่ประชาชนระดับฐานรากคาดว่าจะซื้อในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า 3 อันดับแรก คือ อาหารหรือขนม ร้อยละ 52.7 เสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่ม ร้อยละ 45.5 และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ร้อยละ 37.8สำหรับสถานที่ซื้อและบุคคลที่ต้องการให้ของขวัญของฝาก พบว่า สถานที่ซื้อ  3 อันดับแรก คือ ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 54.4 ตลาด/ร้านค้าทั่วไป ร้อยละ 43.3 และร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้อยละ 41.3 ส่วนบุคคลที่ต้องการให้ คือ คนในครอบครัว ร้อยละ 73.5 ผู้ใหญ่ที่เคารพ ร้อยละ 65.6 ตนเอง ร้อยละ 28.6 เพื่อน ร้อยละ 27.8 และคู่รักหรือแฟน ร้อยละ 22.5 และเมื่อสอบถามถึงเป้าหมายที่จะทำในปีใหม่นี้ พบว่าประชาชนระดับฐานรากตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาชีวิตตนเองให้ดีขึ้น โดยจะออมเงิน ร้อยละ 23.8 พัฒนาตนเอง/พัฒนางาน อาชีพ/การศึกษา ร้อยละ 21.1 และดูแลสุขภาพ เช่น ออกกำลังกาย เลิกเหล้า/บุหรี่ ร้อยละ 13.3.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน