“สมชัย” หาแนวร่วมฟ้อง สนช.ไม่ตรวจสอบการคัดเลือก กกต.จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค.-“สมชัย” ประกาศหาแนวร่วมฟ้อง สนช.ไม่ตรวจสอบการคัดเลือก กกต.จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย  กกต.ที่ต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ 7 กกต. โดยไม่ติดใจกระบวนการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่ก่อนหน้านี้เคยมีสมาชิกทักท้วง และประธาน สนช.ได้มีหนังสือสอบถามไปยังประธานศาลฎีกา และได้รับหนังสือตอบจากเลขานุการศาลฎีกา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 มีใจความว่า “ศาลฎีกาขอเรียนว่ากระบวนการคัดเลือกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 2 คนของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้มีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 12 วรรคสาม ครบถ้วนแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ” ว่า การชี้แจงของศาลฎีกาเพียงแค่จดหมายหนึ่งหน้ากระดาษ สนช.ก็ถือว่าได้ถามและได้ตอบจนเป็นที่กระจ่างชัดแล้ว ไม่ได้มีการสนใจในรายละเอียดวิธีการปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร เป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยตามกฎหมาย หรือเป็นการลงคะแนนลับ ซึ่งผิดกฎหมาย ไม่ได้มีการสนใจที่จะสืบเสาะข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างไร ไม่สนใจในเอกสารที่นำส่งว่ายังขาดรายละเอียด ทั้งจำนวนและรายชื่อผู้สมัครทั้งหมด และคะแนนที่แต่ละคนได้รับ และก้าวข้ามถึงวิธีการลงคะแนนที่ให้ผู้พิพากษาแต่ละคนลงคะแนนในบัตรที่ไม่มีหมายเลขกำกับ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครลงคะแนนให้ใคร ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของคำว่า ลงคะแนนโดยเปิดเผยที่เขียนไว้ใน มาตรา 12 วรรคสาม ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.

“สนช.ไม่ได้สนใจในการสร้างแบบอย่างบรรทัดฐานของการดำเนินการตามกฎหมายว่าต่อจากนี้หากการลงคะแนนในบัตรและนำไปหย่อนในหีบ โดยไม่สามารถล่วงรู้ว่าใครลงคะแนนให้ใคร สามารถถือว่าเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย เนื่องจากได้รับการยืนยันจากศาลฎีกาแล้วว่าทำได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับการลงคะแนนในเรื่องสำคัญขององค์กรต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงการลงคะแนนการเลือกตั้ง สนช.ทำงานง่ายเกินไปหรือไม่ กับการพอใจกับจดหมายตอบจากศาล ที่มีสาระสำคัญเพียง 4 บรรทัด ที่แทบไม่มีการอธิบายรายละเอียดใด ๆ เพียงแค่บอกว่าทำตามกฎหมายแล้ว หากจะมีใครสักคน ฟ้อง สนช.ว่ากระทำการโดยประมาท ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ กรุณาบอกผมด้วย เผื่อว่าผมอาจร่วมลงชื่อ” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว