กรุงเทพฯ 25 ธ.ค. – กรมทางหลวง (ทล.) ยืนยันใช้ระบบปิดมอเตอร์เวย์ชลบุรี-พัทยา สร้างความคุ้นเคยผู้ใช้ทาง 5 ม.ค.นี้ ก่อนเก็บค่าผ่านทางหลังเทศกาลสงกรานต์ 61
นายอภิชาต จันทรทรัพย์ รองอธิบดี ทล. กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างเก็บค่าผ่านทางบนทางหลวงพิเศษหรือมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงชลบุรี-พัทยา ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย หลังจากนี้จะเปิดทดลองใช้วันที่ 5 มกราคม 2561 ช่วงด่านบ้านบึง-ด่านพัทยา ผู้ใช้ทางจะรับบัตรผ่านทางเข้าออกระบบ แต่ยังไม่เก็บค่าผ่านทาง การทดลองดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางคุ้นเคยกับการใช้งานระบบปิดก่อนเก็บค่าผ่านจริงหลังเทศกาลสงกรานต์ปี 2561
ส่วนกระแสคัดค้านผู้ใช้ทางที่อยู่ริมทางมอเตอร์เวย์ที่เห็นว่าการปิดทางจะทำให้ผู้สัญจรไม่สะดวกนั้น กรมฯยืนยันว่าการพัฒนาทางมอเตอร์เวย์ได้มีการพัฒนาพัฒนาถนนคู่ขนาน โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงชลบุรี-พัทยา มีการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3701 และ 3702 ยืนยันว่าจะเปิดให้สัญจรตลอดและมีจุดกลับรถเป็นระยะ เพื่อลดผลกระทบ รวมทั้งพัฒนาถนนคู่ขนานเหล่านี้มีช่องจราจรสูงสุดบางช่วง 3 ช่องจราจร เพื่อเกิดความสะดวกในการขับและกลับรถของผู้ที่อยู่ 2 ข้างทาง
ขณะที่ปัญหาการเก็บค่าผ่านทางนั้น ขอยืนยันว่าเงินกองทุนมอเตอร์เวย์ที่เก็บค่าผ่านทางแต่ละปีกรมฯ จะนำฝากให้กระทรวงการคลังและนำออกมาใช้ประโยชน์ในการบำรุงรักษาทาง สะพานและระบบอำนวยความสะดวก เช่น ไฟส่องสว่าง กล้องซีซีทีวี รถกู้ภัยฉุกเฉินต่าง ๆ ของมอเตอร์เวย์ทุกเส้นทาง ที่สำคัญเงินกองทุนนี้เหลือจากการซ่อมบำรุงก็จะมีการนำไปลงทุนก่อสร้างมอเตอร์เวย์เส้นใหม่ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเส้นทางที่ส่งผลดีต่อระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาเศรษฐกิจและลงทุนของประเทศตามแนวคิดของการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นทางที่ผู้ใช้ทางใช้ถนนระบบปิดมีจุดตัดถนนน้อยที่สุดสามารถบริหารเวลาการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคอย่างคล่องตัว
รองอธิบดี ทล. กล่าวถึงการให้บริการประชาชนทางมอเตอร์เวย์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ตลอด 8 วัน นอกจากการงดเว้นค่าผ่าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวหน้าด่านแล้ว กรมฯ จะเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ไฟส่องสว่าง รถฉุกเฉิน โดยจากสถิติพบว่าการใช้ทางมอเตอร์เวย์ช่วงเทศกาลสำคัญทั้งปีใหม่และสงกรานต์มีผู้ใช้ทางมากกว่าวันละ 600,000 คัน
สำหรับอัตราการจัดเก็บจะขึ้นอยู่กับประเภทรถและระยะทาง โดยรถ 4 ล้อ อัตรา 10-105 บาท รถ 6 ล้อ15-170 บาท และรถมากกว่า 6 ล้อ 20-245 บาท.-สำนักข่าวไทย
