ชุมพร 22 ธ.ค.- คดีว่าที่เจ้าบ่าวก่อเหตุอุกอาจบุกเข้าไปยิงแฟนสาวทันตสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสลุย จ.ชุมพร เสียชีวิตภายในห้องพัก ตำรวจได้คุมตัว “กิ๊กสาว” ของผู้ต้องหา ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตนิมนต์พระสงฆ์ไปที่เกิดเหตุ เพื่อสวดเชิญวิญญาณ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
นางสาวนฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23ปี กิ๊กของนายรณชัย ปานชาติ หรือเก่ง ว่าที่เจ้าบ่าวที่ลงมือสังหารนางสาวนนทิญา ครัวจตุรัส หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหมอปอ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวออกจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรสลุย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนางสาวนฤมลไว้สอบปากคำในฐานะพยานนานกว่า 2 วัน ก่อนจะขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรอนุมัติออกหมายจับนางสาวนฤมล ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านางสาวนฤมลรับสารภาพว่าเป็นผู้จัดซื้ออาวุธปืนด้วยเงิน 7,000 บาท มาให้นายเก่งใช้ลงมือก่อเหตุยิงหมอปอเสียชีวิต เพื่อหลีกหนีการแต่งงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคมนี้
ขณะที่วันนี้นายรณชัย ปานชาติ หรือเก่ง ถูกตำรวจควบคุมตัวออกจากห้องขังโรงพักสลุย เพื่อไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขังที่เรือนจำผัดแรก ซึ่งทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายเก่งถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่นายเก่งตอบคำถามเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ข่าวที่ออกไปเยอะมากพอแล้ว ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษและขึ้นรถที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมไว้
นายเชาว์ ครัวจตุรัส บิดาของหมอปอ จุดธูปพร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของบุตรสาวไปสู่สุคติ โดยมีพระสงฆ์มาประกอบพิธีสวดเชิญวิญญาณ หลังบุตรสาวมาเข้าฝัน ทั้งนี้ บรรยากาศที่บ้านพักหมอปอตลอดการประกอบพิธีเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติสนิทและเพื่อนร่วมงานมาร่วมและช่วยกันเก็บขนย้ายสิ่งของส่วนตัวของหมอปอกลับบ้านเกิดที่อำเภอสวี
นับเป็นอีกหนึ่งคดีที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ จากความรักที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ แปรเปลี่ยนไปเป็นการฆาตกรรม ล่าสุดแม้นายเก่งและนางสาวนฤมลจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินซึ่งมีทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 15 บาท และเงินสดจำนวนหนึ่งที่ยังหาไม่พบ เป็นสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งคลี่คลายให้เกิดความกระจ่างต่อไป.-สำนักข่าวไทย