2 กระทรวงเศรษฐกิจประกาศร่วมมือแก้ปัญหาเกษตร

นนทบุรี 22 ธ.ค. – กระทรวงพาณิชย์จับมือกระทรวงเกษตรฯ  สร้างกลไกบริหารจัดการสินค้าเกษตรแบบบูรณาการ เดินหน้าปรับกระบวนทัศน์  “การตลาดนำการผลิต” ตามแนวทางประชารัฐ พลิกโฉมสู่ความเป็นภาคเกษตรสมัยใหม่ชั้นนำของโลกและยกระดับสินค้าเกษตรไทย



นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารทั้ง 2 กระทรวงประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อร่วมกันจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค พร้อมมอบนโยบาย “มิติใหม่การบูรณาการร่วมพาณิชย์-เกษตร” ให้แก่เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อบูรณาการการทำงานทั้ง 2 กระทรวงร่วมจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและผลมากที่สุดต่อเกษตรกร และผู้ประกอบการไทยทั้งประเทศ ตามแนวทางพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงาน เพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรมของไทยสู่การเป็นภาคเกษตรชั้นนำของโลกโดยใช้การตลาดนำการผลิต ทั้งนี้ มั่นใจว่าการทำงานแบบบูรณาการอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่ดูแลภาคการผลิตและหน่วยงานด้านการตลาดเป็นนิมิตหมายที่ดีในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้นทั้งด้านราคาและตลาด และจะนำไปสู่การพลิกโฉมสู่ภาคเกษตร 4.0 ที่เป็นรูปธรรมได้อย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปประเทศไทยจะเปลี่ยนจากการผลักดันสินค้าเกษตรซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม หมายความว่า จะไม่ผลิตเพื่อขายกันแบบสด ๆ เหมือนที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว เช่น ปลูกข้าวก็จะไม่ขายแบบข้าวเปลือกอย่างเดียว แต่จะแปรรูปเพิ่มมูลค่าเริ่มตั้งแต่พันธุ์พืชที่ปลูกจะต้องมีการวิจัยพัฒนา เช่น ข้าวที่รับประทานแล้วมีสารที่ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บบางประเภท หรือบำรุงร่างกาย โดยสินค้าดังกล่าวต้องมีเรื่องราวและระบุถึงคุณค่าทางโภชนาการ ผูกโยงกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เชื่อมโยงสู่การตลาดทั้งระบบดั้งเดิมและการค้าออนไลน์ ตลอดจนสามารถเปลี่ยนจากการเน้น เพียงแค่ภาคการผลิตสินค้าสู่ภาคบริการมากขึ้น อาทิ การเชื่อมโยงภาคเกษตรสู่การท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้งจะมีการแต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่รับผิดชอบสินค้าเกษตรสำคัญเป็นรายสินค้าทั้งในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างทีมทำงานที่มีความเป็นเอกภาพและไร้รอยต่อมากที่สุด

ทั้งนี้ แนวทางบูรณาการระหว่างทั้ง 2 กระทรวงจะครอบคลุมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและการตลาด เพื่อวางแผนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรสำคัญเป็นรายสินค้า การสื่อสารข้อมูลไปสู่เกษตรกรรายย่อยถึงความต้องการของตลาด การพยากรณ์ วิเคราะห์ และเตือนภัยที่จำเป็นต่อการเพาะปลูก การส่งเสริมศักยภาพทางการค้าของเกษตรกร อาทิ ความร่วมมือพัฒนาสถาบันเกษตรกรให้เป็นกลไกทางการค้าของท้องถิ่น การสร้างแรงจูงใจเหนี่ยวนำการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความพร้อมรองรับการขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศที่กว้างยิ่งขึ้น อาทิ การนำสินค้าของกลุ่มสหกรณ์และผลผลิตของเกษตรกรรายย่อยมาวางจำหน่าย ณ ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านโชห่วย และการสร้างเครือข่ายกับห้างค้าปลีกค้าส่ง  รายใหญ่ รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวรองรับมาตรการทางการค้าและมาตรฐาน  

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การค้าใหม่ ๆ นอกจากนั้นจะยกระดับมูลค่าสินค้าสู่เกษตรยุคใหม่ อาทิ สินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตไปสู่ระบบอาหารปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ และการตรวจรับรองตามหลักมาตรฐานสากล รวมถึงการสร้างความมั่นใจในสินค้าเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนพัฒนาสู่สินค้าเกษตรนวัตกรรม โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งจะนำพาเกษตรกรรายย่อยในห่วงโซ่ให้มีรายได้สูงขึ้นและเปลี่ยนผ่านสู่ การผลิตสีเขียวตามวิสัยทัศน์  Bio Economy


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกันวางแผนการผลิตโดยใช้การตลาดเป็นตัวนำ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและตลาด  โดยเชื่อมั่นว่าการบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลอดทั้งห่วงโซ่จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตั้งแต่การวางแผนการผลิต การบริหารจัดการสตอก การแปรรูป และการตลาด รวมทั้งสามารถสะท้อนข้อมูลย้อนกลับไปสู่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อปรับเปลี่ยนการวางแผนเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสมได้ล่วงหน้า ทั้งนี้ กลไกบริหารจัดการภาคการเกษตรทั้งในส่วนกลาง ระดับพื้นที่ และกลุ่มจังหวัดของทั้ง 2 กระทรวง ต้องขับเคลื่อนแบบบูรณาการร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น อีกทั้งเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำพาภาคการเกษตรของไทยก้าวสู่ความเป็นภาคการเกษตรสมัยใหม่ชั้นนำของโลก สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น สร้างอาชีพ และกระจายโอกาสให้แก่เกษตรกรไทยในทุกมิติกันต่อไป

ทั้งนี้ เชื่อว่าการทำงานร่วมกันทั้ง 2 กระทรวงครั้งนี้ นอกจากปรับคนแล้วจะจะปรับฐานข้อมูลของทั้ง 2 หน่วยงานที่มีจำนวนมากให้เป็นฐานข้อมูลเชื่อมโยงกัน เพื่อนำฐานข้อมูลไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรทั้งประเทศว่าควรจะเพาะปลูกพืชไร่ปีต่อไปอย่างไร ราคาจะดีแค่ไหน และเพาะปลูกตามความต้องการของตลาด ทำให้สินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม มีราคาที่เสถียรภาพทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น แม้ว่าการทำงานร่วมกันครั้งนี้จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและยกระดับสินค้าเกษตรให้ดีขึ้นในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ