ชาวนาใจดี มอบ 1 ล้าน ให้รพ.บุรีรัมย์ หลังถูกรางวัลที่ 1

บุรีรัมย์ 21 ธ.ค.-ชาวนาชาวบุรีรัมย์วัย 54 ปี ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 12 ล้าน ประกาศบริจาคเงินให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์ 1 ล้านบาท เพื่อตอบแทนที่ดูแลรักษาภรรยาป่วยโรคไตเป็นอย่างดี


จากกรณีที่ชาวนาบ้านโคกเพชร ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 955596 งวดประจำวันที่ 16 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท และประกาศจะบริจาคเงินที่ถูกรางวัลให้กับทางโรงพยาบาลบุรีรัมย์จำนวน 1 ล้านบาท  และสถานีตำรวจอีก 1 แสนบาท ทราบข่าวต่อมาว่าสองสามีภรรยาโชคดีเป็น 2 ชั้น เพราะก่อนหน้านี้ 


นายสมบูรณ์ คงดี อายุ 54 ปี นางละเอียง คงดี อายุ 52 ปี สองสามีภรรยา กำลังเอาที่นาผืนสุดท้ายจำนวน 8 ไร่ ไปขายเพื่อมาทำการรักษานางละเอียง ภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตวายในระยะที่ 5 ทำให้ไม่ต้องขายนาและมีเงินรักษาภรรยาให้ดีที่สุดโดยระหว่างที่นายสมบูรณ์ ผู้โชคดีหรือว่าที่เศรษฐีคนใหม่ ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัล ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ประกาศผ่านผู้สื่อข่าวว่า เงินรางวัลที่ได้มาจำนวน 12 ล้านบาท จะบริจาคให้โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ที่รักษาภรรยาของตนเองเป็นเงิน 1 ล้านบาท และมอบให้สถานีตำรวจอีก 100,000 บาท 

ต่อมาโลกออนไลน์ วิจารณ์ว่าอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบริจาคให้โรงพยาบาลมากถึง 1 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมาเคยมีคนถูกมากกว่านี้ ก็ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน บางรายวิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะความดีใจในครั้งแรกจึงพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งสติ ล่าสุดได้รับคำยืนยันจาก น.ส.พรสุดา คงดี อายุ 20 ปี ลูกสาวนายสมบูรณ์ เผยว่าเมื่อวันที่ (20 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ทางครอบครัวเดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์เพื่อยืนยันการบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีของโรงพยาบาลภายในวันอาทิตย์นี้ และจะมีการทำพิธีมอบอีกครั้ง ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์มาเป็นพยานการรับมอบด้วย


น.ส.พรสุดา ยังบอกด้วยว่า การบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ครอบครัวไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และไม่ได้ฝืนความรู้สึกแต่อย่างใด เพราะเป็นความตั้งใจของผู้เป็นพ่อที่เคยพูดไว้ตั้งแต่ก่อนจะถูกรางวัลแล้วว่า หากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็จะมอบเงินให้โรงพยาบาล 1 ล้านบาท เพราะอยากทดแทนบุญคุณให้ทางโรงพยาบาลที่ดูแลและรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตเป็นอย่างดี

ส่วนที่จะบริจาคให้สถานีตำรวจ ครอบครัวได้ตกลงกันแล้วว่า จะมอบให้สถานีตำรวจภูธรเมือง บุรีรัมย์จำนวน 20,000 บาท ส่วนอีกเหลือ 80,000 บาท จะบริจาคให้กับสถานีตำรวจภูธรพลับพลาชัย และโรงพยาบาลพลับพลาชัย ซึ่งเป็นบ้านเกิด ทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอวดรวย แต่เป็นความตั้งใจและอยากทำบุญเพราะเชื่อว่าการถูกลอตเตอรี่มาจากผลบุญที่ทำ จึงอยากแบ่งปันให้กับสังคมบ้าง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง