กรมการท่องเที่ยว 19 ธ.ค.-นายกสมาคมมัคคุเทศก์ยื่นหนังสือต่อกรมการท่องเที่ยว เพิกถอนใบอนุญาตไกด์สาวหล่อ ปีนพระปรางค์วัดอรุณ หลังพบความผิดขัดจรรยาบรรณไกด์หลายด้าน
นายชาติ จันทนประยูร นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาชิกไกด์ รวมตัวกันเดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอุดม มัตสยะวินิชกูล ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว หลังล่ารายชื่อมัคคุเทศก์ 300 คนเพื่อให้พิจารณาเพิกถอนบัตรอนุญาตการเป็นมัคคุเทศก์ตลอดชีวิตของ น.ส.นรนนท นรคามินทร์ ไกด์สาวหล่อ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะกับอาชีพอย่างร้ายเเรง โดยปีนป่ายพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารเพื่อถ่ายภาพ เพราะผิดจรรยาบรรณภายใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ พ.ศ.2535 ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่การเเต่งกาย มารยาท เเละความประพฤติ
นายชาติ กล่าวว่า ไกด์สาวหล่อมีบัตรมัคคุเทศก์ประเภทบอร์ซเงิน เลขที่ 11-57331ซึ่งออกโดยกรมการท่องเที่ยว เเละจะหมดอายุวันที่ 22 มกราคม 2019 นี้ โดยบัตรบอร์ซนั้น มัคคุเทศก์สามารถใช้ภาษาใดสอบก็ได้ ซึ่งไกด์ใช้ภาษาอังกฤษ เเต่กลับมาเป็นไกด์เกาหลีเเละจีน ซึ่งจากการสังเกตโดยไกด์คนอื่นๆในพื้นที่การทำงาน พบว่าไม่สามารถสื่อสารภาษาเกาหลีเเละจีนได้ อีกทั้งยังเป็นไกด์ประเภท sitting guide หรือผู้ช่วยไกด์ที่ไม่สามารถสื่อสารได้ ซึ่งเป็นประเภทไกด์ที่ใช้สื่อสารกันในกลุ่มของมัคคุเทศก์ด้วยกันซึ่งไม่ยอมรับในความสามารถ อีกทั้งก่อนหน้านี้ไกด์คนดังกล่าวยังโดนคดีลักทรัพย์ที่ร้านค้า เเละมีพฤติกรรมกอดจูบกับลูกทัวร์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเกินเลยการให้บริการ รวมถึงชอบสวมใส่กางเกงขาสั้นทำงาน ซึ่งถือว่าเเต่งกายไม่เหมาะสม
ด้านนายอุดม มัตสยะวินิชกูล ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ดำเนินการสอบสวน เเละมีคำสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาต 6 เดือนซึ่งหลังจากนี้หากพบว่ามีการร้องเรียนหรือตรวจสอบพบการกระทำผิดอีก ก็อาจจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตทันที ซึ่งความผิดที่เข้าขั้นการเพิกนั้น ได้เเก่การกระทำความผิดทางอาญาอาทิ ฉ้อโกง ชิงทรัพย์ เป็นการทำผิดครั้งที่2เเละมีการพักโทษมาก่อนเเล้ว ส่วนไกด์ที่เป็นประเภท sitting ตรวจพบหลายพันคนเเละก็จะมีมาตรการจัดการต่อไป
สำหรับก่อนหน้านี้ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวไกด์คนดังกล่าวไปกราบขอขมาพระปรางค์วัดอรุณเเล้ว รวมถึงได้นำตัวไปส่งศาลจังหวัดตลิ่งชันเพื่อดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน ในข้อหาการปีนป่ายและแสดงกิริยาวาจาที่ไม่เหมาะสม โดยข้อหานี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล.-สำนักข่าวไทย