ลำพูน 19 ธ.ค.-ปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี สร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้คนในชุมชน ชาว จ.ลำพูน จึงร่วมกันสร้าง “ลำพูนโมเดล” ต้นแบบจังหวัดปลอดขยะอาหาร เมืองสะอาด น่าอยู่ เคียงคู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง
ปริมาณขยะมูลฝอยที่มีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมามีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นในประเทศไทยกว่า 27 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนคน 1 คน สร้างขยะมูลฝอยที่ 1.14 กิโลกรัม/วัน เฉพาะที่ จ.ลำพูน มีขยะปริมาณมากถึง 94,200 ตัน/ปี และเป็นขยะเปียกมากถึง 30,000 ตัน/ปี
ชาวลำพูนจึงร่วมกันเดินหน้าโครงการ “ลำพูนโมเดล” ให้เป็นต้นแบบจังหวัดปลอดขยะจากอาหาร หรือขยะเปียกจังหวัดแรกในประเทศไทย โดยจัดให้มีการแยกขยะอย่างเป็นระบบ มีชุมชนต้นแบบเข้าร่วมโครงการแล้ว 310 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 50 ของทั้งจังหวัด
ชุมชนบ้านป่าบุก จ.ลำพูน เป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบที่โดดเด่นในการจัดการขยะ ภายใต้แนวคิด Zero Waste มีผู้นำที่เข้มแข็ง และคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการช่วยกันจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง อาทิ การคัดแยกขยะภายในบ้านเรือน ขยะเศษอาหาร คัดแยกเพื่อทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือทำปุ๋ยหมักจากใบลำใย ช่วยลดค่าปุ๋ยได้ ปีละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท
นอกจากจะมีผักสวนครัวริมรั้วกินได้ ปลอดสาร สุขภาพดีทานด้วย ยังนำโฟมมาผสมปูนทรายมาทำขอบคันหินเบา เพื่อใช้ประโยชน์ในชุมชน ทำให้สภาพแวดล้อมในหมู่บ้านสะอาดและน่าอยู่
โครงการนี้มีการทำงานในรูปแบบประชารัฐ มีทั้งหน่วยงานรัฐอย่างเทศบาล ชุมชนและภาคเอกชนที่เป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่บริจาคอาหารที่ขายไม่หมดแต่ละวันให้เทศบาล เพื่อนำไปเป็นอาหารปลาในโครงการเศรษฐกิจพอเพียง 102 ไร่ รวมทั้งมอบถังขยะเพื่อสนับสนุนการคัดแยกเศษผักและผลไม้อย่างเป็นระบบระเบียบให้ตลาดสด รวมทั้งแยกเศษอาหารให้ 11 โรงเรียนในเขตเทศบาล เพื่อรณรงค์ให้นักเรียนมีจิตสำนึกการแยกขยะอย่างถูกต้อง
“ลำพูนโมเดล” ถือเป็นโมเดลนำร่องที่จังหวัดอื่นๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดปริมาณขยะอาหารของแต่ละพื้นที่ และมีส่วนช่วยลดปริมาณขยะของประเทศไทยไปในตัว.-สำนักข่าวไทย