คาด ธปท.คงดอกเบี้ยระดับต่ำหนุนเศรษฐกิจปี 61

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – อีไอซีคาด ธปท.คงดอกเบี้ยระดับต่ำ หนุนการขยายตัวเศรษฐกิจปี 61 แม้เฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง รับเศรษฐกิจสหรัฐโตแข็งแกร่ง 


ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรืออีไอซี ระบุว่าจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อวันที่ 12-13 ธันวาคม 2017 มีมติปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขึ้นร้อยละ 0.25ไปอยู่ที่ช่วงร้อยละ 1.25 – 1.50 ทั้งนี้ คณะกรรมการของ FOMC ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้งในปี 2561 ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ในช่วงร้อยละ 2.0 – 2.25 สิ้นปี 2561

อีไอซีมองว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2561 โดยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องทั้งด้านอัตราการว่างงานที่ลดลงจนอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งผลของนโยบายการปฏิรูปภาษีที่คณะกรรมการ FOMC บางส่วนมองว่าอาจมีส่วนช่วยสนับสนุนแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เฟดยังคงมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำปีนี้เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวและยังเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวได้ ดังนั้น จึงมองว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นต่อเนื่องในปี 2561 โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้งตามประมาณการการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย


สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในระยะต่อไปนั้น จะไม่กระทบค่าเงินบาทมากนัก แม้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง แต่อาจไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากนัก เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ไว้บ้างแล้ว ดังนั้น ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจึงอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ในปี 2561 แม้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะมีแนวโน้มสูงขึ้นและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสูงกว่าที่คาดอยู่ที่ร้อยละ 4.3 ในไตรมาส 3 แต่การขยายตัวดังกล่าวยังคงกระจุกตัวอยู่ในภาคเศรษฐกิจที่ได้รับผลดีจากอุปสงค์จากต่างประเทศ ได้แก่ การส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว ขณะที่การฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศโดยเฉพาะกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่มีรายได้น้อยยังคงอ่อนแอ ทำให้ธปท.ยังมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก