จำคุกตลอดชีวิต”เล่าต๋า”ราชายาเสพติด

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค.- ศาลพิพากษาประหาร เล่าต๋า พร้อมบุตรชายกับพวก ค้ายาไอซ์ 20 กิโลกรัม แต่เล่าต๋าสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนภรรยา โดน25 ปี


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายเลาต๋า แสนลี่ อายุ 78 ปี  เจ้าของฉายาราชานักค้ายาเสพติดชื่อดัง  นางอาส่าหม่า แสนลี่  อายุ 68 ปี ภรรยา  นางรพีกาญจน์  หรือจันทร์ฉาย หรือไก่ ภพเพชรลักษณ์ หรือทรายมูล อายุ 58 ปี นายวิจารณ์ แสนลี่ บุตรชาย อายุ 42 ปี อดีตกำนัน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนายบารมี บารมีเกื้อกูลทรัพย์ อายุ 39 ปี คนใกล้ชิด ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 – 5  ฐานมียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่าย พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  กรณีระหว่างวันที่ 1 ก.ย. -11 ต.ค.59 จำเลยทั้งห้า ร่วมกันมีไอซ์หนัก 20  กก.เศษ มูลค่า  11.5 ล้านบาท  โดยมีการกระทำเป็นขบวนการแล้วจำหน่ายให้แก่สายลับที่ปลอมตัวล่อซื้อภายในปั๊มน้ำมัน “เล่าต๋า ปิโตรเลียม” บริเวณปากทางเข้าบ้านห้วยส้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ก่อนถูกจับกุมจำเลยทั้งหมดได้พร้อมยาเสพติดของกลาง อาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน โทรศัพท์  3 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้น  จำเลยที่ 1-2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 3-5 ให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของโจทก์  ตำรวจที่ปลอมตัวล่อซื้อ ภาพถ่าย วีดีโอ และพยานหลักฐานจำเลย ที่แบ่งคดีเป็น 2 กรรม คือ คดีการล่อซื้อยาไอซ์ ล็อตแรกจำนวน 1 กิโลกรัม มีนายเล่าต๋า นางอาสาหม่า และนางรพีกาญจน์ เป็นจำเลยที่ 1-3 โดยจำเลยที่ 1-2 รับสารภาพ จำเลยที่ 3 ปฏิเสธ อ้างว่า เป็นแค่คนติดต่อ พาสายลับไปขายปุ๋ยให้เล่าต๋า แต่ศาลเชื่อว่า เป็นนายหน้าค้ายาโดยได้เปอร์เซนต์จากเล่าต๋า   พิพากษา จำคุกทั้ง 3 คนตลอดชีวิต ปรับคนละ 5 ล้านบาท  ลดโทษให้จำเลยที่ 1-2 กึ่งหนึ่งเนื่องจากรับสารภาพเหลือจำคุก คนละ25 ปี ปรับ 2.5 ล้านบาท 


ส่วนอีกคดี คือการติดต่อซื้อยาไอซ์ล็อต 2 รวม 20 กิโลกรัม มีจำเลย ที่ 1, 4 และ 5 ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเชื่อว่า จำเลยที่ 4และ 5 มีหน้าที่ระแวดระวังควบคุมการส่งมอบยาไอซ์ของจำเลยที่ 1 พิพากษาประหารชีวิต จำเลยทั้ง 3 คน แต่ จำเลยที่ 1 รับสารภาพ ลดโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต และเนื่องจากอัตราโทษในคดีที่ 2 เป็นโทษสูงสุด คือประหารชีวิต จึงไม่นำโทษจำคุกในคดีแรกมารวม แต่ให้รวมกับค่าปรับในคดีแรกอีก 2.5 ล้านบาท  และลงโทษปรับจำเลยที่ 4ฐาน พกพาอาวธปืน อีก 1,000  บาท.-สำนักข่าวไทย 

    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า