นักวิชาการชี้ปัญหารัฐธรรมนูญไทยคือประชาชนยังไม่มีส่วนร่วม

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค.- นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ชี้ ปัญหารัฐธรรมนูญไทยคือประชาชนยังไม่มีส่วนร่วม และการจัดดุลแห่งอำนาจในรัฐธรรมนูญไม่สมบูรณ์ ทำให้รัฐธรรมนูญเป็นเพียงกล่องความฝันที่แก้ปัญหาการเมืองตามยุคสมัยเท่านั้น พร้อมระบุ ว่าที่ กกต.ชุดใหม่ไม่มีสัดส่วนประชาสังคม ทำให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐได้ยาก


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยเนื่องในวันรัฐธรรมนูญประจำปี 2560 ว่า ในระบอบประชาธิปไตย 85 ปี ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ เฉลี่ยระยะเวลาการบังคับใช้แต่ละฉบับอยู่ที่ประมาณ 4 ปี เมื่อพิจารณาถึงรัฐธรรมนูญทั้ง 20 ฉบับ จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1.รัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับประชาชนซึ่งประกาศใช้ทันทีหลังการรัฐประหาร 9 ฉบับ ที่มีทั้งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หรือธรรมนูญการปกครองชั่วคราว และ 2.รัฐธรรมนูญที่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน 11 ฉบับ เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการร่างของสภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือการร่างโดยฝ่ายบริหารแล้วนำส่งให้สภาพิจารณา 

นายยุทธพร กล่าวว่า เมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญทั้งสองกลุ่ม จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญที่สำคัญ 2 ประการ คือ ปัญหาแรก ปัญหาเรื่องความเป็นสถาบันทางการเมืองของรัฐธรรมนูญไทย เกิดขึ้นจากกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ประชาชนจึงไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของร่วมในรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญไม่ได้อยู่ในวิถีชีวิตของประชาชน ทำให้ประชาชนไม่ได้รู้สึกถึงความจำเป็นและไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญคือเครื่องมือในหลักประกันด้านสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติธรรม ดังนั้น กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญในระยะหลัง ทำให้รัฐธรรมนูญกลายเป็นเครื่องมือในเชิงกลไกเทคนิคทางกฎหมาย ส่วนนักกฎหมายก็กลายเป็นนักเทคโนแครต หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ประชาชนไม่ได้อยู่ในกระบวนการเหล่านี้ เมื่อรัฐธรรมนูญกลายเป็นกลไกมากกว่าหลักประกันด้านสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รัฐธรรมนูญก็กลายเป็นกล่องความฝันของผู้คนในแต่ละยุค เป็นเรื่องของการนำปัญหาทางการเมืองไปใส่ในกล่องความฝันนี้ และกล่องนี้ก็สะท้อนออกมาในรูปแบบของรัฐธรรมนูญที่แก้ปัญหาทางการเมืองในยุคนั้นๆ แต่กลับนำมาสู่ปัญหาทางการเมืองในยุคต่อไป เช่น ก่อนปี 2540 ไทยมีรัฐบาลผสม และมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล สุดท้ายก็แก้ปัญหาด้วยรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจฝ่ายบริหารอย่างเข้มแข็ง แต่กลับทำให้การตรวจสอบไม่เข้มข้น จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีก นำมาสู่การแก้ปัญหาด้วยรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่แก้ปัญหาให้ฝ่ายบริหารถูกตรวจสอบได้ง่ายขึ้น สุดท้ายมาตรการตรวจสอบต่างๆเหล่านั้น กลับเป็นอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาล ต่อมาเมื่อถึงรัฐธรรมนูญปี 2560 เกิดขึ้นมาจากฝันร้ายทางการเมือง เกิดขึ้นจากสภาวะความขัดแย้งทางการเมืองในห้วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และสภาวะดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองตามมาอีกจำนวนมาก จนเกิดการกล่าวโทษว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน เกิดขึ้นจากนักการเมืองและระบบการเลือกตั้ง จึงทำให้มีการลดทอนกระบวนการเลือกตั้ง มุ่งเน้นการตรวจสอบนักการเมืองอย่างเข้มข้น แต่ก็กระทบสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 


นายยุทธพร กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สองของรัฐธรรมนูญไทย คือ การจัดดุลแห่งอำนาจในรัฐธรรมนูญที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากสถาบันประชาธิปไตยไม่ใช่สถาบันแรกในสังคมทางการเมืองไทย ดุลแห่งอำนาจที่มีก่อนประชาธิปไตยจะเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถเข้าไปจัดการกับดุลแห่งอำนาจเหล่านั้นได้ดีพอ จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐราชการกับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เกิดจากปัญหาพื้นฐานของสังคมไทยที่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องสิทธิและเสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชน รวมถึงหลักนิติธรรม นอกจากนี้ ในแง่ของสถาบันการเมืองในการเมืองไทย เช่น รัฐบาล รัฐสภา พรรคการเมือง การเลือกตั้ง ไม่สามารถยกระดับให้เป็นสถาบันทางการเมืองได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งสังคมการเมืองไทยยังมีความสัมพันธ์ในเชิงอุปถัมภ์ มีปัญหาระบบพรรคพวก จนไม่สามารถสร้างสังคมทางการเมืองสมัยใหม่ให้เกิดขึ้นได้ ปัญหาเหล่านี้ทำให้การเมืองในระบอบตัวแทนถูกตั้งคำถามอยู่เสมอว่ามีความชอบธรรมเพียงใด ดังนั้น ต้องหาทางออกว่าจะทำอย่างไรให้ที่มาของรัฐธรรมนูญมีความผูกพันกับประชาชน 

นายยุทธพร กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีจุดแข็งคือ การตรวจสอบและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่รัฐธรรมนูญปราบโกงจะดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ปัญหาในเชิงรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่มีปัญหาในเชิงโครงสร้างด้วย เช่น ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ การรวมศูนย์อำนาจ หรือปัญหาการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เป็นต้นตอของปัญหาคอร์รัปชั่นที่รัฐธรรมนูญเข้าไปแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น จุดแข็งในส่วนนี้จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป ขณะเดียวกัน รัฐธรรมนูญปี 2560 ก็มีจุดอ่อนคือ การเปลี่ยนแปลงกติกาในหลายส่วน ตั้งแต่เรื่องกระบวนการเข้าสู่อำนาจ การเลือกตั้ง การตรวจสอบ ซึ่งเป็นกติกาที่ประชาชนไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ และไม่ได้รู้สึกเป็นเจ้าของ แม้จะมีกลไกใหม่ แต่หากหลายฝ่ายไม่ยอมรับกติการ่วมกัน สุดท้ายจะกลับไปวังวนเดิมคือวังวนของความขัดแย้งที่รัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ปัญหาได้

นายยุทธพร กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นว่า สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้กติกาใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลายส่วน การเลือกตั้งจะออกมาดีได้ ต้องมีส่วนผสมที่สมดุลย์กัน ซึ่งขณะนี้ไม่เปิดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมืองและยังไม่เปิดให้พรรคการเมืองได้รับการปลดล๊อกทางการเมือง หากทั้งสองส่วนไม่ได้เตรียมความพร้อม การเลือกตั้งก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เพราะขณะนี้มุ่งเน้นไปเพียงเรื่องเดียวคือ เรื่องผู้บริหารจัดการการเลือกตั้ง สุดท้ายการเลือกตั้งก็อาจกลับไปสู่ความขัดแย้งเช่นเดิม สำหรับรายชื่อว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน ส่วนใหญ่เป็นนักกฎหมาย แต่ไม่เห็นภาคประชาสังคม ซึ่งต่างจาก กกต.ชุดแรกตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ตอบสนองต่อภารกิจของ กกต.ครบทั้ง 5 ด้าน และหลักการสำคัญของกกต.ในเวลานั้น เกิดขึ้นจากการไม่ไว้วางใจภาครัฐ คือกระทรวงมหาดไทยจะจัดการเลือกตั้งได้อย่างเป็นกลางหรือไม่ เมื่อมาถึง กกต.ชุดที่สองในรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็เกิดปัญหาเรื่องสัดส่วนของนักกฎหมายมาเกินไป มุ่งเน้นการตรวจสอบติดตามการเลือกตั้งมากเกินไปหรือไม่ ส่วน กกต.ปี 2556 ก็มีปัญหาที่ไม่เคยจัดการเลือกตั้งมาก่อน และเมื่อมาปีว่าที่ กกต.ชุดใหม่นี้ สัดส่วนของนักกฎหมายก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม สะท้อนให้เห็นว่า บทบาทภารกิจหน้าที่ของ กกต.ถูกลดทอนลงไป และยิ่งไม่มีตัวแทนจากภาคประชาสังคมมาตรวจสอบการเลือกตั้ง โอกาสที่จะได้การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพคงเป็นไปได้ยาก เพราะเมี่อถึงช่วงระหว่างการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง การทุจริตจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากเจ้าหน้าที่รัฐ และภาคประชาสังคมจะมีหน้าที่ที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐได้ดี แต่วันนี้ เมื่อไม่มี กกต.จากส่วนนี้ การเลือกตั้งที่จะตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นไปได้ยาก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย