รัฐสภา 10 ธ.ค.-ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กังวล พรรคการเมืองจะไม่สามารถเตรียมพร้อมได้ทัน หากไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง วอน กกต.ประสานสำนักทะเบียนราษฎร์ขอข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อไม่ให้เป็นภาระเรื่องค่าธรรมเนียม
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงโฉมหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ชุดใหม่ ว่า หากปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเหมือนพระที่ถือศีล 227 ข้อ ก็คงอาบัติไม่ได้ จึงไม่ต้องกังวลมาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจมากตามกฎหมาย กกต.ใหม่ แต่ที่จะเป็นปัญหาคือการบริหารแบบใหม่ จะทำให้ กกต.ไม่มีเวลาฮันนีมูน ต้องลุยงานทันที เริ่มจากการเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นปัญหาจะไม่ได้เกิดจาก กกต. แต่จะเกิดจากงาน เพราะทุกอย่างใหม่หมด และ เลขาธิการ กกต. ที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งต้องรับผิดชอบพรรคการเมืองทั้งหมดก็ยังไม่มี ในขณะที่พรรคการเมืองก็ยังดำเนินการอะไรไม่ได้
ส่วนกรณีรายชื่อว่าที่ กกต.ชุดใหม่ ไม่มีบุคคลที่มีประสบการณ์การเลือกตั้ง นายนิกร กล่าวว่า ก็ต้องเรียนรู้ เพราะทุกอย่างใหม่หมด ซึ่งต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งนี้ และครั้งต่อไปคงดีขึ้น แต่จะเป็นปัญหาให้การเลือกตั้งไม่ราบรื่นหรือไม่นั้น คงจะตอบไม่ได้ เพราะทั้งระบบไพรมารีโหวต และการนับคะแนนแบบสัดส่วนผสม มีประเทศไทยประเทศเดียวในโลก จึงต้องมีปัญหาแน่นอน เพราะไม่รู้จะเรียนแบบใคร ขอให้เตรียมตัวแก้ปัญหาไว้ ซึ่งอาจมีปัญหาแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็น
นายนิกร ยังกล่าวถึงกรณีที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าอาจมีการปลดล็อกพรรคการเมืองช่วงใกล้เลือกตั้งว่า ทุกอย่างมีวันเวลาที่ชัดเจน เมื่อถึงวันที่ 5 มกราคมก็จะครบ 90 วัน ที่พรรคการเมืองต้องส่งฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองให้ กกต. ดังนั้น รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เวลานี้ในส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาเตรียมขอขยายเวลาไว้แล้ว เพราะเสี่ยงรอไม่ได้ ทั้งนี้ อยากให้เข้าใจว่า แม้พรรคการเมืองจะขอขยายเวลาได้ แต่เวลาเลือกตั้งขยายไม่ได้ วันเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะหลังจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เหลือเสร็จ 150 วัน จากนั้นก็ต้องเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นปัญหากับพรรคการเมืองในภายหลังว่า เวลาไม่เพียงพอต่อการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการประสานข้อมูลกับสำนักทะเบียนราษฎร์ โดยสำนักทะเบียนราษฎร์เรียกเก็บค่าบริการหัวละ 10 บาท ซึ่งเป็นภาระสำหรับพรรคการเมืองอย่างมาก เช่นพรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกถึง 200 กว่าล้านคน ก็ต้องเสียค่าบริการให้สำนักทะเบียนราษฎร์กว่า 20 ล้านบาท จึงขอให้ กกต. เป็นผู้ขอข้อมูลจากสำนักทะเบียนราษฎร์ แล้วส่งมาให้พรรคการเมืองแทน ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง.-สำนักข่าวไทย