กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – คมนาคมเปิดแผนอำนวยความปลอดภัยการเดินทางปีใหม่ ชูแผนเข้มข้นยกกำลัง 2 ดูแลถนน 61 สายทาง มีประวัติอุบัติเหตุ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนเทศกาลปีใหม่ 2561 ว่า ปีนี้กำหนดเป้าหมายตามแนวคิดเข้มข้นยกกำลังสอง 61 สดใสปลอดภัยยกกำลังสอง 61 สายทาง หรือเป้าหมายไม่มีอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตบนถนนหลวง 41 สายทาง และบนทางหลวงชนบท 20 สายทาง
สำหรับเส้นทางถนนที่กำหนดเป็นเป้าหมายทั้ง 61 สายทางนี้มาจากเส้นทางที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องภายใต้ความร่วมมือกระทรวงคมนาคมไทยและญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นถนนปลอดภัยไม่เกิดอุบัติเหตุ 12 สายทางถนนที่เคยเกิดอุบัติเหตุสูงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จำนวน 13 สายทาง ถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในรอบ1-3 ปี อีก 19 สายทาง และถนนเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนนิยมท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ 27 สายทาง รวมทั้งสิ้น 61 สายทาง ซึ่งจะมีการดูแลความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้น
ขณะที่เป้าหมายเกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในเทศกาลปีใหม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เพียงพอและไม่ล่าช้า จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนโครงข่ายคมนาคมลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ปีที่ผ่านมา รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตจากการขนส่งสาธารณะต้องเป็นศูนย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำรถโดยสารรถไฟและเรือต้องพักผ่อนเพียงพอและระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางพิเศษ รวมถึงจุดตัดรถไฟ
ส่วนการแบ่งงานให้นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายอาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายงานในการกำกับดูแลหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า และรัฐวิสาหกิจสำคัญ เช่น บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยเน้นย้ำให้เร่งผลักดันโครงการสำคัญที่ล่าช้ามาเป็นเวลานาน เช่น โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน พร้อมทั้งดูแลงานด้านยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่เกี่ยวกับงานพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 รวมถึงโครงการที่อยู่ในกำกับดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง รวมทั้งแผนฟื้นฟูกิจการใน 3 รัฐวิสาหกิจสำคัญทั้งในส่วนของ รฟท. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน).-สำนักข่าวไทย