ออมสินขยับเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอี 4 หมื่นล้านบาท

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 1 ธ.ค. – ธนาคารออมสินเดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพ ขยับเป้าปี 61 มุ่งปล่อยสินเชื่อ 4 หมื่นล้านบาท  


นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Smart SMEs Smart START UP” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หวังยกระดับผู้ประกอบการในธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพจากองค์กรแบบดั้งเดิม เปลี่ยนเป็นการใช้แนวคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม หรือ Smart Enterprise เพื่อผลักดันผ่านทุกมาตรการของรัฐทั้งภาษี แหล่งทุน การความรู้เพิ่มร่วมกับสถาบันการศึกษา หลังจากแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Start Up Commitee) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ทอัพ  

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ปัจจุบันมีวงเงิน 10,000 ล้านบาท รวมถึงการร่วมลงทุนหรือ Venture Capital เพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท หลังจากรับภารกิจจากนโยบายรัฐบาลเพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอี ปีนี้ปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี 20,000  ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีให้ได้ 80,000 ล้านบาท  คาดว่ามียอดเบิกจ่ายสินเชื่อจริงประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือมีสินเชื่อรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท เนื่องจากออมสินมีเงินฝากรวม 2.3 ล้านล้านบาท ต้องหาช่องทางปล่อยสินเชื่อเพิ่มนอกจากรายย่อย สินเชื่อภาครัฐ จึงต้องการเน้นสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เน้นกลุ่มเป้าหมายวงเงินกู้ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีนวัตกรรมในการผลิตสินค้าตามนโยบายรัฐ รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน เช่น การรวมกลุ่มจัดทำโฮมสเตย์ ต้องมีทั้งที่พัก ร้านค้าชุมชน เพื่อสร้างรายได้ทั้งการท่องเที่ยวและขายสินค้าในระดับท้องถิ่น ตลอดจนสตรีทฟู้ด ฟู้ดทรัค เพื่อส่งเสริมคนรุ่นใหม่แนวคิดทันสมัยได้เติบโต 


สำหรับการจัดงานครั้งนี้แบ่งเป็นโซน Smart Life โซนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Food and Cuisine โซนนวัตกรรมทางด้านอาหาร  Smart Business โซนของกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์  Star Startup โซนแสดงสินค้าของเหล่าดารานักแสดง   Smart Innovation โซนของสินค้านวัตกรรมล้ำสมัยพร้อมด้วยบูธของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะเข้ามาแสดงผลงาน  GSB Smart Startup โซนของกลุ่มผู้ที่ผ่านโครงการ GSB สุดยอดเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพตัวจริง ซึ่งจะมาในรูปแบบของการแสดงสินค้า พร้อมด้วย Showcase ของผู้ที่ได้อันดับ 1 – 3 จากโครงการประกวดแผนธุรกิจ “ออมสินจากร้อยสู่เงินล้าน” ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา อีก 15 ผลงาน Digital Playground โซนเสนอนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีและดิจิตอล  Truck Business โซนของกลุ่มผู้ประกอบการทางด้านรถทรัค เพื่อประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ เช่น รถ Food Truck, รถทรัคสำหรับขายเสื้อผ้าเป็นต้น โดยภายในงานจะมีรถทรัคจริง ๆ เข้ามาจอดแสดงอยู่ถึง 7 คัน และ Strategic Partners โซนพันธมิตรของธนาคาร ประกอบด้วย องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ  เพื่อให้เอสเอ็มอีผู้สนใจทำธุรกิจได้หารือพบปะหาความรู้กับสถาบันการเงิน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง