ก.คมนาคม 1 ธ.ค. – รมช.คมนาคมคนใหม่เข้ากระทรวงเริ่มงาน ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุน สอดคล้องนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สนใจแก้ปัญหาสถิติอุบัติเหตุทางถนน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางเข้ากระทรวงคมนาคมเป็นวันแรก โดยเดินทางมาถึงเวลา 07.41 น. หลังจากนั้นได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิตรและศาลพระภูมิสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม โดยมีนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารให้การต้อนรับ หลังจากนั้นแถลงต่อผู้สื่อข่าว เบื้องต้นการมอบหมายหน่วยงานที่จะกำกับดูแลคาดว่าจะมีความชัดเจนต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากขณะนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปราชการในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าความสนใจงานที่จะเข้ามาช่วยมีส่วนขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงคมนาคมได้นั้น เห็นว่าที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่เคยบริหารงานรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่อย่าง บมจ. ปตท ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนมากที่สุด ดังนั้น เชื่อว่าจะใช้ความรู้ความสามารถขับเคลื่อนโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟสใหม่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ท่าเรือ สำคัญ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เช่น การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งที่ผ่านมามีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยทำหน้าที่วิศวกรในช่วงที่มีการพัฒนาโครงการอีสเทิร์น ซีบอร์ด ซึ่งเมื่อรัฐบาลชุด ปัจจุบันนำมาต่อยอดเป็นการพัฒนาพื้นที่อีอีซี เชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถขับเคลื่อนการลงทุนที่มีสนับสนุนการเติบโตจีดีพีของประเทศได้มาก
“การพัฒนาระบบคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวงและเมืองที่มีการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมสูง ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เช่น การพัฒนาเมืองโตเกียวกับเมืองโยโกฮามา ซึ่งมีการพัฒนาระบบขนส่งคมนาคมทางถนนด้วยโครงการมอเตอร์เวย์ถึง 3 เส้นทาง ดังนั้น การพัฒนาพื้นที่อีอีซีเช่นเดียวกันหากมีการพัฒนาระบบขนส่งเชื่อมโยงกับกรุงเทพมหานครและพื้นที่รอบนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเห็นผล โดยปัจจุบันการเดินทางไปพื้นที่ภาคตะวันออกของไทยมีเส้นทางมอเตอร์เวย์เพียงสายเดียว ดังนั้น เชื่อว่าในอนาคตจะต้องมีการพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์เพิ่ม เพื่อเชื่อมระหว่าง 2 ภูมิภาคแน่นอน” นายไพรินทร์ กล่าว
ส่วนงานที่มีความสนใจเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงคมนาคมอีกเรื่องหนึ่ง คือ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวสารออกมาว่าคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่ละปีจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่าจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมขับเคลื่อนภารกิจในการพัฒนาเส้นทางถนนและการกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะต่าง ๆ ออกมาแล้วในอนาคตจำเป็นต้องรณรงค์สร้างจิตสำนึกหรือและวินัยการจราจรให้กับคนใช้รถใช้ถนน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางลดปัญหาอุบัติเหตุได้อย่างยั่งยืน
ส่วนคำถามว่าหากได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานที่มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการประมูลสำคัญ เช่น โครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี ซึ่งเป็นโครงการที่มีปัญหาการประมูลล่าช้ายืดเยื้อมานาน นายไพรินทร์ กล่าวว่า งานขับเคลื่อนภารกิจขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก็เป็นภารกิจที่น่าสนใจ หากได้รับมอบหมายก็จะพยายามผลักดันให้ ขสมก. มีรถเมล์ใหม่ออกมาให้บริการไม่ว่าจะด้วยวิธีประมูลหรือวิธีใด โดยการแก้ไขปัญหาการประมูลที่ล่าช้า ที่ผ่านมามีแนวคิดว่าการประมูลโครงการลงทุนแต่ละโครงการเมื่อประสบปัญหาจำเป็นต้องใช้แนวคิดในการแยกปัญหาออกจากกันแบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ เช่น งานที่เกี่ยวข้องทางด้านเทคนิค ข้อกฎหมาย และงานด้านพาณิชย์ และต้องแก้เป็นปัญหาเป็นเรื่อง ๆ ไป อย่าเอามารวมกัน เชื่อว่างานก็จะบรรลุผลสำเร็จ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ยืนยันว่าการทำงานที่กระทรวงคมนาคมนั้น จะสามารถทำงานด้วยความสบายใจ เนื่องจากปัจจุบันนี้กระทรวงคมนาคมมีข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย