ทำเนียบรัฐบาล 30พ.ย.-“สุวิทย์-สมชาย” น้อมรับกระแสรับสั่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานเพื่อประชาชน เผยส่งอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการทำงาน
ภายหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พระองค์ทรงรับสั่งว่าอาจจะต้องเผชิญปัญหาและทรงอวยพรกับคณะรัฐมนตรีทุกคนให้ประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประเทศ ซึ่งตนเองและคณะรัฐมนตรีใหม่ทุกคนก็น้อมรับกระแสรับสั่งของพระองค์ท่าน ในส่วนการทำงานของตนเองนั้นก็จะเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไปทันที ทั้งนี้ส่วนของนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายนั้น จะเริ่มด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเนื่องจากเป็นเรื่องของคน ก็จะเป็นเรื่องที่เอา 4.0 ให้เกิดเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนผ่านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ตนเองจะไปมอบนโยบาย
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนการทำงานของ ป.ย.ป.นั้น ทั้งหมดก็ขึ้นกับนายกรัฐมนตรี จะพิจารณาตามความเหมาะสมว่าจะมอบหมายอย่างไรซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ขณะที่นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีกระแสพระราชดำรัส ต่อคณะรัฐมนตรีใหม่ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณา ซึ่งพระองค์ท่านมีความเป็นห่วงประชาชนขอให้คณะรัฐมนตรีใหม่ทุกคนทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ความสุขของประชาชนเป็นสิ่งที่คณะรัฐมนตรีทุกคนจะต้องคำนึงถึง ซึ่งคณะรัฐมนตรีทุกคนก็น้อมรับในกระแสรับสั่งของพระองค์ท่าน ซึ่งการทำงานก็จะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป โดยจะมีการประชุมทันที อันที่จริงก็ทำงานกันมาบ้างแล้วเป็นการภายใน ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มอย่างเป็นทางการ
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนการทำงานของตนนั้นคงจะมาดูแลในเรื่องของเอสเอ็มอีเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องของโรงงาน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ 4.0 รวมทั้งเมืองแร่ แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือรัฐมนตรีว่าการในทุกๆ เรื่อง ทั้งนี้ไม่มีความหนักใจในเรื่องใด เพราะที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นได้ด้วยดีและมีความเข้าใจ ก็จะเป็นการเข้าไปเร่งในงานบางเรื่องตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการที่วางไว้แล้ว ในส่วนของปัญหาเมืองแร่ทองคำที่ยังมีปัญหาในส่วนของผู้ประกอบการนั้นขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ ซึ่งมีคณะทำงานที่ปลัดกระทรวงเป็นประธานอยู่แล้วก็คงให้ดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอนที่วางไว้ทั้งในส่วนของการเจรจาและการเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการซึ่งความพร้อมของเราก็มีอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว การเจรจาก็ยึดหลักการที่นายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายนโยบายไว้ใน 3 หลักคือดูตามเงื่อนไขข้อตกลงที่มีไว้กับต่างประเทศ ดูในเรื่องความปลอดภัยสวัสดิการของประชาชนและดูเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ.-สำนักข่าวไทย