นักเศรษฐศาสตร์แนะ ครม.ชุดใหม่ กระตุ้น ศก.ให้ฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – นักเศรษฐศาสตร์ แนะ ครม.ชุดใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ฟื้นตัว ดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน ภาคเอกชน ขยายการลงทุน


ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ นักเศรษฐศาสตร์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การปรับ ครม.ชุดใหม่ครั้งนี้ ตลาดเงินตลาดทุน ภาคเอกชน นักลงทุนต่างชาติ ยอมรับว่าเป็นเชิงบวกจิตวิทยาได้บ้าง แต่ตลาดคาดหวังว่าจะมีนโยบายใหม่ๆ จากหลายกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญ ยอมรับว่ารัฐมนตรีหลายท่านมาจาก สส.ในพื้นที่ จึงต้องแสดงฝีมือ ผลักดันนโยบายที่รัฐบาลประกาศให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพราะผลงานทางเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องของชาวบ้าน นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

นักลงทุนต่างชาติ ภาคเอกชนในประเทศ ต้องการเห็นรัฐบาลมีเสถียรภาพ ถึงจะตัดสินใจขยายการลงทุน หรือเข้าลงทุนใหม่ ครม.ชุดใหม่ จึงต้องให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะปัญหาเศรษฐกิจไทย ยังต้องพึ่งพาการส่งออก สัดส่วนถึงร้อยละ 78 ของจีดีพี ขณะที่การซื้อขายบริโภคในประเทศมีเพียงร้อยละ 28 และยังต้องอาศัยเงินลงทุน FDI ของต่างชาติ และการลงทุนเอกชนไทย เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ท่ามกลางสงครามทางการค้า เศรษฐกิจโลกชะลอตัว


หลังจากธนาคารโลก คาดจีดีพีโลกโตร้อยละ 2 จากเดิมร้อยละ 3 นับว่าต่ำสุดในรอบ 17 ปี คาดการณ์จีดีพีไทยโตร้อยละ 1.7 IMF มองว่าจีดีพีไทยโตร้อยละ 1.8 สภาพัฒน์ฯ คาดจีดีพีไทยโตร้อยละ 1.8 มูสดี้ คาดไทยโตร้อยละ 2.0 ส่วน กนง.คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 2 เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงเป็นการบ้านหนักของรัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ ต้องเร่งหารายได้จากการส่งออก ผ่านหลายเข้ามาตรการ เข้ามาผลักดันเศรษฐกิจไทย มองว่า คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ เคยเป็นผู้บริหารจากอดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ หากตั้งทีมที่ปรึกษา ดึงผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงาน เดินหน้าเจรจา FTA กับหลายประเทศ หวังว่าจะดึงรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้น

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ครม.ชุดใหม่ ต้องสร้างผลงานทางเศรษฐกิจ เพราะถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ เมื่อนายกรัฐมนตรีควบกระทรวงวัฒนธรรมด้วย ถือว่าผู้นำประเทศเข้าไปผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวผ่านนโยบายซอล์ฟเพาเวอร์ เป็นอีกเรื่องสำคัญที่น่าจับตา ขณะที่ทีมเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม เพราะเปลี่ยนตัวเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ภายสิ้นปีนี้ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด ส่วนในเรื่องประเด็นการค้า ต้องรอลุ้นนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ จะมีผลออกมาอย่างไร เมื่อสหรัฐมีท่าทีไม่ขยายเวลา 90 วัน กับทุกประเทศ หากไทยถูกเก็บภาษีได้น้อยที่สุดจะมีผลดีต่อการส่งออก

ครม.ชุดใหม่ ยังต้องเร่งผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ผ่านหลายโครงการ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายจังหวัด เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้มากสุด ขณะที่ทุกกระทรวงกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจและมีงบลงทุน ต้องเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนออกสู่ระบบโดยเร็วที่สุดในไตรมาส 3 ให้มากที่สุด ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหวังอยากให้งบปี 69 เมื่อผ่านการพิจารณาจากสภา หลังมี ครม.ชุดใหม่มาขับเคลื่อน จะถูกนำออกไปใช้ในไตรมาส 4 ปี 68 รวมทั้งรัฐมนตรีคลัง เตรียมเสนอรายชื่อผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ให้ ครม.พิจารณาในเร็วๆ นี้ คาดว่า จะเป็นอีกกลไกหนึ่ง ทั้งคลังและ ธปท. ร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต ผ่านนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ด้วยดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้ออกสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ประสานกับนโยบายการคลัง ม.หอการค้า มองว่าจะทำให้จีดีพีไทยเติบโตได้ร้อยละ 1.5-2 เพื่อให้ ครม.ชุดใหม่ร่วมผลักดันนโยบายเดิมให้เห็นผล แต่ยังมีปัญหาเสี่ยง สงครามการค้าโลก เมื่อเป็นรัฐบาลผสมจากพรรคร่วมเดิม จะทำให้โครงการลงทุน การจัดสรรงบไม่เปลี่ยนแปลงมาก สภาต้องผลักดันงบปี 69 ให้ผ่านสภา


ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติ มองไทย 2 ด้าน คือ เมืองไทยมีปัจจัยอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ จากศักยภาพในการแข่งขันของไทย ยังไม่โดดเด่นมากนัก จากนโยบาย “8 วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND” ยังเห็นผลไม่ชัดเจน และในช่วง 5 ปีข้างหน้า กองทุน IMF คาดการณ์จีดีดีไทยโตเพียงร้อยละ 3 เทียบกับแผนของรัฐบาลต้องการให้จีดีพีไทยโตร้อยละ 4-5 เมื่อไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุ แรงงานไทยเริ่มลดลง จากอัตราการเกิดติดลบ การพัฒนาบุคคลากรเป็นภาพระยะยาวที่ยังไม่โดดเด่นมากนัก สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต่างชาติตัดสินใจเข้ามาขยายการลงทุน และหันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน.-515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]