“อภิสิทธิ์” ติงร้านธงฟ้าผูกขาดขายแพง

กรุงเทพฯ  27 พ.ย. – “อภิสิทธิ์” ติงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ร้านธงฟ้าประชารัฐผูกขาดขายแพง แนะโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า โครงการนี้สร้างปัญหาใหม่ เพราะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายคนที่ได้ 200-300 บาทต่อเดือน ต้องเดินทางเสียค่าใช้จ่ายไปหาร้านที่จะรับบัตร เพราะร้านที่อยู่ในโครงการนี้จะต้องเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งมีประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยใช้บัตรได้เพียงร้านธงฟ้าร้านเดียวในชุมชน ส่งผลกระทบต่อร้านค้าเล็ก ๆ และตลาดสดในชุมชน เสียธุรกิจ เงินก็ไม่หมุนเวียน ซึ่งแบบนี้ความจริงไม่ได้ยาก หากรัฐบาลโอนเงินไปให้คนละ 200 – 300 บาท ก็จบตั้งแต่ต้น  

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไข คือ ร้านธงฟ้าประชารัฐกลายเป็นการผูกขาดในพื้นที่ ร้านธงฟ้าเหล่านี้ขายสินค้าแพงกว่าที่อื่น เพราะถึงอย่างไรผู้มีรายได้น้อยก็ต้องไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้า เนื่องจากใช้สิทธิ์ได้ นับเป็นตัวอย่างของนโยบายเพิ่มการผูกขาด เพิ่มความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ ส่วนนโยบายจัดระเบียบทางเท้าไม่มีการค้าขาย ทำให้เกิดปัญหาตามมา 2 ประการ  ประการ แรกผู้ค้าสูญเสียรายได้ ประการที่ 2 แหล่งอาหารราคาถูกสำหรับคนทำงานในกรุงเทพฯ จำนวนมหาศาลหายไป


 นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันแม้ตัวเลขภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น ล่าสุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเติบโตเกินร้อยละ 4 ซึ่งดีกว่าที่เคยคาดการณ์ แต่ยังเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในภูมิภาคและเป็นการรับรู้ในกลุ่มคนจำนวนน้อยมาก ขณะที่คนจำนวนมากในชนบทและภาคการเกษตร ไม่ได้มีความรู้สึกเลยว่าเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นการตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น ขณะนี้จึงมีความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ 3 มิติ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดภาวะการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปและได้รับผลกระทบโดยตรงจากพัฒนาการทางด้านการเมืองด้วย

มิติแรก คือ ความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าที่แม้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การแก้ไขปัญหาไม่ได้ผล เพราะยังมีปัญหาใหญ่สุดที่ยังไม่รับการแก้ไข คือ กำลังซื้อของเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ส่วนมาตรการช้อปช่วยชาติก็เป็นการช่วยเหลือคนซื้อที่มีกำลังซื้ออยู่แล้วเท่านั้น คนที่ไม่มีกำลังซื้อก็ไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เป็นต้น 

มิติที่สอง คือ มิติปัญหาขีดความสามารถทางการแข่งขันถดถอย ซึ่งรัฐบาลรับรู้ มีท่าทีและจุดยืนในการแก้ไขปัญหา ด้วยนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่จะมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC และมีการวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่จะสมารถนำไปสู่เป้าหมายได้จริงหรือไม่ ที่ผ่านมารัฐบาลตั้งคณะทำงานเร่งแก้ไขกฎหมายทางธุรกิจ ซึ่งหากนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ กฎกระทรวงรวมถึงระเบียบต่าง ๆ แล้ว ประเทศไทยมีกฎหมายรวมประมาณกว่า 100,000 ฉบับ ขณะที่คณะทำงานแก้ไขเกือบจะ 2 ปี ยังไม่สามารถที่จะสังคายนากฎหมายได้ทั้งหมด แต่ระหว่างนี้รัฐบาลออกกฎหมายใหม่มาอีกกว่า 200 ฉบับ ซึ่งเป็นระดับพระราชบัญญัติบวกกับคำสั่ง คสช.และกฎหมายที่ออกมาในช่วงนี้ เป็นกฎหมายที่เพิ่มอำนาจภาคราชการ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ และยังมีประเด็นเรื่องการเตรียมพร้อมกำลังคนอีกด้วย


ส่วนความท้าทายที่ 3 คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รัฐบาลแก้ไขปัญหาเสมือนแก้ที่ปลายเหตุ ตัวเลขที่น่ากลัว คือ ขณะที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจกล้าพูดว่าปีหน้าความยากจนหรือคนจนจะไม่มีแล้ว แต่ข้อเท็จจริง คือ ปีที่ผ่านมาคนจนเพิ่มขึ้น สถิติระบุอย่างนั้นและเป็นห้วงเวลาแรกที่คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจ คนจนเคยเพิ่มขึ้นในอดีตช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งและวิกฤตเลห์แมนบราเธอร์ส แต่ขณะนี้คนจนเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลระบุว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นความท้าทายใน 3 มิติดังกล่าว คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ความสามารถในการแข่งขันและปัญหาความเหลื่อมล้ำกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากไม่ปรับวิธีคิด วิธีการบริหารทางเศรษฐกิจจะเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย