“อภิสิทธิ์” ติงร้านธงฟ้าผูกขาดขายแพง

กรุงเทพฯ  27 พ.ย. – “อภิสิทธิ์” ติงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ร้านธงฟ้าประชารัฐผูกขาดขายแพง แนะโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า โครงการนี้สร้างปัญหาใหม่ เพราะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายคนที่ได้ 200-300 บาทต่อเดือน ต้องเดินทางเสียค่าใช้จ่ายไปหาร้านที่จะรับบัตร เพราะร้านที่อยู่ในโครงการนี้จะต้องเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งมีประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยใช้บัตรได้เพียงร้านธงฟ้าร้านเดียวในชุมชน ส่งผลกระทบต่อร้านค้าเล็ก ๆ และตลาดสดในชุมชน เสียธุรกิจ เงินก็ไม่หมุนเวียน ซึ่งแบบนี้ความจริงไม่ได้ยาก หากรัฐบาลโอนเงินไปให้คนละ 200 – 300 บาท ก็จบตั้งแต่ต้น  

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไข คือ ร้านธงฟ้าประชารัฐกลายเป็นการผูกขาดในพื้นที่ ร้านธงฟ้าเหล่านี้ขายสินค้าแพงกว่าที่อื่น เพราะถึงอย่างไรผู้มีรายได้น้อยก็ต้องไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้า เนื่องจากใช้สิทธิ์ได้ นับเป็นตัวอย่างของนโยบายเพิ่มการผูกขาด เพิ่มความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ ส่วนนโยบายจัดระเบียบทางเท้าไม่มีการค้าขาย ทำให้เกิดปัญหาตามมา 2 ประการ  ประการ แรกผู้ค้าสูญเสียรายได้ ประการที่ 2 แหล่งอาหารราคาถูกสำหรับคนทำงานในกรุงเทพฯ จำนวนมหาศาลหายไป


 นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันแม้ตัวเลขภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น ล่าสุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเติบโตเกินร้อยละ 4 ซึ่งดีกว่าที่เคยคาดการณ์ แต่ยังเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในภูมิภาคและเป็นการรับรู้ในกลุ่มคนจำนวนน้อยมาก ขณะที่คนจำนวนมากในชนบทและภาคการเกษตร ไม่ได้มีความรู้สึกเลยว่าเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นการตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น ขณะนี้จึงมีความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ 3 มิติ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดภาวะการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปและได้รับผลกระทบโดยตรงจากพัฒนาการทางด้านการเมืองด้วย

มิติแรก คือ ความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าที่แม้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การแก้ไขปัญหาไม่ได้ผล เพราะยังมีปัญหาใหญ่สุดที่ยังไม่รับการแก้ไข คือ กำลังซื้อของเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ส่วนมาตรการช้อปช่วยชาติก็เป็นการช่วยเหลือคนซื้อที่มีกำลังซื้ออยู่แล้วเท่านั้น คนที่ไม่มีกำลังซื้อก็ไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เป็นต้น 

มิติที่สอง คือ มิติปัญหาขีดความสามารถทางการแข่งขันถดถอย ซึ่งรัฐบาลรับรู้ มีท่าทีและจุดยืนในการแก้ไขปัญหา ด้วยนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่จะมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC และมีการวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่จะสมารถนำไปสู่เป้าหมายได้จริงหรือไม่ ที่ผ่านมารัฐบาลตั้งคณะทำงานเร่งแก้ไขกฎหมายทางธุรกิจ ซึ่งหากนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ กฎกระทรวงรวมถึงระเบียบต่าง ๆ แล้ว ประเทศไทยมีกฎหมายรวมประมาณกว่า 100,000 ฉบับ ขณะที่คณะทำงานแก้ไขเกือบจะ 2 ปี ยังไม่สามารถที่จะสังคายนากฎหมายได้ทั้งหมด แต่ระหว่างนี้รัฐบาลออกกฎหมายใหม่มาอีกกว่า 200 ฉบับ ซึ่งเป็นระดับพระราชบัญญัติบวกกับคำสั่ง คสช.และกฎหมายที่ออกมาในช่วงนี้ เป็นกฎหมายที่เพิ่มอำนาจภาคราชการ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ และยังมีประเด็นเรื่องการเตรียมพร้อมกำลังคนอีกด้วย


ส่วนความท้าทายที่ 3 คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รัฐบาลแก้ไขปัญหาเสมือนแก้ที่ปลายเหตุ ตัวเลขที่น่ากลัว คือ ขณะที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจกล้าพูดว่าปีหน้าความยากจนหรือคนจนจะไม่มีแล้ว แต่ข้อเท็จจริง คือ ปีที่ผ่านมาคนจนเพิ่มขึ้น สถิติระบุอย่างนั้นและเป็นห้วงเวลาแรกที่คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจ คนจนเคยเพิ่มขึ้นในอดีตช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งและวิกฤตเลห์แมนบราเธอร์ส แต่ขณะนี้คนจนเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลระบุว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นความท้าทายใน 3 มิติดังกล่าว คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ความสามารถในการแข่งขันและปัญหาความเหลื่อมล้ำกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากไม่ปรับวิธีคิด วิธีการบริหารทางเศรษฐกิจจะเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท