จ่อขอศาลออกหมายจับ “ครูจอมทรัพย์-ครูอ๋อง” ฐานเบิกความเท็จ

นครพนม 24 พ.ย. – ตำรวจเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดนครพนมออกหมายจับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร และนายสุริยา นวนเจริญ หรือ ครูอ๋อง เพื่อนสนิท หลังหลักฐานเชื่อมโยงเป็นตัวการสำคัญในขบวนการว่าจ้างหาคนรับผิดแทนคดีขับรถชนคนตาย เมื่อ 12 ปีก่อน


หลังตำรวจนครพนมมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่านางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร และนายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ เป็นตัวการสำคัญในขบวนการว่าจ้างหาคนรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ คดีขับรถชนคนตายในพื้นที่จังหวัดนครพนม เมื่อปี 2548 ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดนครพนมออกหมายจับทั้งคู่ฐานเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 วรรคสอง ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ซึ่งหากมีโทษเกินกว่า 3 ปีขึ้นไป ไม่ต้องออกหมายเรียก 

ส่วนความคืบหน้าในการสอบปากคำผู้ต้องหา 4 ราย ที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ พบว่านายบุญเทิง วาปี พี่ชายนายสับ และนายเลิศ วาปี ญาตินายสับ สอบสวนแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจจึงปล่อยตัวไป ขณะที่นางจัน วาปี ภรรยานายสับ พบว่าไปปรากฏตัวในเหตุการณ์ต่างๆ หลายจุดจึงถูกเอาผิดพร้อมนายสับด้วย


ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเดินทางไปพบครูจอมทรัพย์ที่บ้านม่วงไข่ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร พบว่ายังอาศัยอยู่ในบ้าน แต่ไม่สะดวกออกมาพบ ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามเจ้าตัวบอกว่า ต้องการพักผ่อน สงบจิตใจ เพราะเจ็บปวดมามากแล้ว ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว เพราะตอนนั้นอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครพนม อยากรู้ให้ไปถามครูอ๋อง และตำรวจ พร้อมตัดพ้อว่ามีการเชื่อมโยงกันไปใหญ่โต และจะเอาผิดตนซ้ำสอง

ขณะที่นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 คนที่ถูกแจ้งความเอาผิดลอตแรก ปฏิเสธเช่นกันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่เดินเรื่องหาทางช่วยเหลือภรรยาตามขั้นตอนกฎหมายที่เปิดช่องให้เท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียก หากมีหมายเรียกมาถึง ก็พร้อมเข้าพบตำรวจโดยจะไม่หลบหนีไปไหน. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน