ครอบครัว ‘เมย’ มารับอวัยวะที่รพ.พระมงกุฎเกล้า

กทม. 23 พ.ย.-ครอบครัว ‘เมย’ นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต เดินทางมารับอวัยวะที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รอบ 2




ที่โรงพยาบาล (รพ.)  พระมงกุฎเกล้า เวลาประมาณ 11.00 น.ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ หรือเมี่ยง พี่สาวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตหลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน โดยในวันนี้จะเดินทางมาพร้อมกับนายพิเชษฐและนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ พ่อและแม่ของน้องเมย เพื่อมารับชิ้นส่วนอวัยวะที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าได้นำออกไปจากร่างของน้องเมยเพื่อไปทำการตรวจพิสูจน์รอบแรก  ได้แก่ หัวใจ สมอง กระเพาะอาหาร เพื่อนำไปให้สถาบันนิติวิทยา ตรวจซ้ำรอบ 2 

พนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ จ.นครนายก นัดครอบครัวไว้ที่สถาบันพยาธิวิทยา รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่ประจำตึกแจ้งว่าสถานที่แคบเกินไปที่จะรองรับสื่อมวลชน จึงขอให้คณะสื่อไปรอที่ห้องพักผู้วายชนม์ ด้านในสุดของโรงพยาบาล โดยในห้องได้มีการนำกล่องโฟม 2 กล่องบรรจุชิ้นอวัยวะของน้องเมยเตรียมให้ครอบครัวนำส่งต่อให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์


เวลา 11.15 น. ครอบครัวเดินทางมาถึงบริเวณหน้าห้องพักผู้วายชนม์ โดยมี พล.ต.นพ.ธารา พูนประชา ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า ต้อนรับและอธิบายขั้นตอนการรับอวัยวะ บรรยากาศระหว่างที่มีการอธิบายขั้นตอน เป็นไปด้วยความโศกเศร้า คุณแม่ของน้องเมยร้องไห้ตลอดเวลา และระหว่างนั้นคุญแม่ได้ถามถึงชิ้นส่วนหัวใจก่อนจะเดินเอามือไปวางบนกล่อง ก่อนจะพูดทั้งน้ำตาว่า “เมย แม่จะพูดอะไรกับลูกคำนึงว่า ใจแม่คิดถึงลูก มีอะไรก็บอกแม่ ขอให้บอกแม่มา ” ก่อนพ่อจะดึงตัวกลับเข้าไปโอบกอดปลอบใจ 

พล.ต.นพ.ธารา ได้กล่าวขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแจ้งถึงผลการตรวจของทีมแพทย์ ระบุว่าหัวใจของน้องเมย มีอาการโตผิดปกติ สรุปคือเป็นกล้ามเนื้อหัวใจโต แต่ว่าโตจากอะไร ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เนื่องจากทางครอบครัวต้องการนำหัวใจและอวัยวะอื่นๆไปให้สถาบันนิติฯตรวจรอบ 2 ซึ่งถ้าหากยังอยู่ที่สถาบันจะได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวไจมาตรวจหาสาเหตุให้ประจักษ์ต่อไป

ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งกับครอบครัวว่ามีการนำหัวใจออกไปจากร่างเป็นเพราะความรอบคอบของทีมแพทย์เพราะทีมงานรู้อยูแล้วว่าเป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ จึงต้องนำออกผ่าพิสูจน์หาสาเหตุซึ่งกฎหมายระบุไว้ว่าไม่ต้องบอกญาติก็ได้ แต่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นคงต้องขอใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญให้หน่วยงานต่างๆมาปรับเปลี่ยนวิธีการในอนาคต เพื่อที่จะไม่ใช่ดูแลแค่ศพ แต่ต้องดูแลจิตใจญาติด้วย 

พร้อมกับตอบข้อซักถามของพี่สาวน้องเมยว่ายังไม่ได้รับผลการตรวจภายในจากโรงเรียนนายร้อยฯ เพราะตามกฎของโรงพยาบาล หากได้รับมาจะทำให้ที่แพทย์เกิดความลำเอียงได้ ทางสถาบันฯจะรับศพมาโดยที่ไม่มีข้อมูลใดๆ ทำหน้าที่มาวินิจฉัยใหม่ทั้งหมดถึงสาเหตุการเสียชีวิต เหมือนทำหน้าที่เป็นศาลตัดสินการเสียชีวิต ในอนาคตจะต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อดูข้อมูลควบคู่กันไป ตอนนี้ยอมรับขั้นตอนระบบยังไม่นิ่ง ผลจากจึงยังไม่ออกมาชัดเจน เมื่อผลที่ได้ยังไม่ชัดเจน ทางผู้ใหญ่จึงยังไม่ได้รับข้อมูล 

ส่วนที่ทางรัฐมนตรีกลาโหมไปให้ข่าวว่า เป็นฮีทสโตรก เพราะที่ผ่านมานักเรียนเตรียมฯมีปัญหาเรื่องฮีทสโตรกเยอะจนทำให้เสียชีวิต 

“เรื่องนี้มีนักข่าวไปถามท่าน ท่านก็ต้องตอบตามข้อมูล เพราะถ้าหากนิ่งก็จะเหมือนว่าท่านไม่ตอบสนอง”พล.ต.นพ.ธารา  กล่าว

ด้านนายพิเชษฐ  บิดาของน้องเมย กล่าวฝากไปถึง พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ออกมาให้ข่าวว่าลูกตนเสียชีวิตด้วยโรคฮีทสโตรกบ้าง เป็นทหารต้องอดทนบ้าง จนนายกรัฐมนตรี หรือ ผบ.ทหารสูงสุดต้องออกมาแก้ข่าวให้ ระบุคนเป็นพ่อแค่ลูกเสียชีวิตก็เสียใจมากพอแล้ว แล้วการที่ท่านมาให้ข่าวแบบนี้ ท่านไม่ให้คุณค่า ไม่ให้เกียรติกับลูกตัวเองเลย ก็อยากฝากไปถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบ้าง การออกมาให้ข่าวขอให้นึกถึงใจคนเสียชีวิตบ้าง

“คนเป็นพ่อเป็นแม่ถ้าลูกตายคุณจะเสียใจไหม พี่ตาย น้องตายยังไม่เสียใจเท่าลูกตาย ถ้าลูกคุณตายทั้งคนคุณจะเสียใจไหม” คุณพ่อน้องเมยกล่าว

หลังเสร็จสิ้นการเซ็นต์เอกสารรับ ครอบครัวน้องเมยก็ได้นำกล่องอวัยวะออกไปไว้บนรถ ก่อนเดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมกับพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ โดย ครอบครัวของน้องเมยไม่สะดวก ที่จะให้สัมภาษณ์เนื่องจากสภาพจิตใจยังไม่พร้อม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท