สธ.กำชับ 12 รพ.พร้อมรับมือพายุคีโรกี

สธ.20 พ.ย.-สธ.กำชับ12 รพ.พร้อมรับมือพายุคีโรกี เตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมและแผนสำรองการทำงานในภาวะฉุกเฉิน เตือนประชาชน หลีกเลี่ยงอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่/ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่      


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนจะมีพายุดีเปรสชัน “คีโรกี”จะเข้าสู่ประเทศไทยวันที่ 20-21พ.ย.นี้ นั้น นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลทุกแห่งและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยเฉพาะใน 12  จังหวัดที่เสี่ยงได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี  นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และภูเก็ต  ให้ติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดำเนินการตามแผนที่ได้กำหนดไว้ และรายงานส่วนกลางทันที 


สำหรับแผนที่ได้เตรียมไว้มีดังนี้ 

1.ป้องกันความเสียหายต่ออาคาร สถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ เครื่องสูบน้ำ ตรวจสอบระบบระบายน้ำ ไม่ให้อุดตัน ขนย้ายเวชภัณฑ์  เอกสารสำคัญไว้ในที่ปลอดภัย สำรวจความแข็งแรงสิ่งก่อสร้าง ป้ายประกาศ ไฟส่องสว่าง ตัดแต่งต้นไม้ รื้อถอนสิ่งที่เป็นอันตรายหรือซ่อมแซมให้ปลอดภัย 2.สำรองทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการจัดบริการประชาชน เช่น ยา-เวชภัณฑ์ ระบบไฟฟ้าสำรอง น้ำมัน ออกซิเจน อาหาร เป็นต้น 


3. สำรวจผู้ป่วยที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ และไม่สามารถเดินทางมาสถานบริการได้ เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการ 

4.เตรียมแผนประคองกิจการ ปรับพื้นที่ให้บริการ กรณีไม่สามารถเปิดบริการได้ และแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมทั้งประสานโรงพยาบาลข้างเคียงร่วมจัดบริการนอกสถานที่ เตรียมชุดปฏิบัติการแพทย์สนามฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติ หรือทีมเมิร์ท (MERT : Medical Emergency Response Team)

นอกจากนี้ให้กองสาธารณสุขฉุกเฉินประสานงานและสนับสนุนเวชภัณฑ์ตามที่จังหวัดร้องขอ โดยขณะนี้ได้สำรองยาชุดช่วยเหลือน้ำท่วมในส่วนกลาง พร้อมสนับสนุนพื้นที่ได้ทันที เตือนประชาชน หลีกเลี่ยงเข้าใกล้สิ่งก่อสร้างที่อาจเป็นอันตรายขณะเกิดพายุลมแรง เช่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง หากบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์ได้ที่ สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5