โรงงานน้ำตาลพร้อมเจรจาส่วนแบ่งจากผลพลอยได้อื่น

กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – 3 สมาคมน้ำตาลทรายพร้อมเจรจาส่วนแบ่งรายได้ หากจะนำผลพลอยได้อื่นมาแบ่งรายได้เพิ่มจากกากน้ำตาล


นายสิริวุทธ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมน้ำตาลทราย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อยู่ระหว่างแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 หากจะแก้ไข เพื่อเปิดทางให้สามารถนำรายได้จากผลพลอยได้อื่น ๆ นอกเหนือจากปัจจุบันที่นำรายได้จากน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลเข้าระบบแบ่งปันผลประโยชน์  โดยชาวไร่ได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 70 โรงงานน้ำตาลร้อยละ 30 นั้น ทาง 3 สมาคมน้ำตาลทรายพร้อมหารือกับชาวไร่อ้อยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายใต้พื้นฐานหลักการคำนวณส่วนแบ่งรายได้ที่เป็นธรรม เนื่องจากชาวไร่อ้อยและผู้ที่เกี่ยวข้องเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน 

นายสิริวุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงงานมีภาระที่ต้องบริหารจัดการสิ่งที่เป็นของเสียหรือ WASTE จากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เช่น กากน้ำตาล  ซึ่งเดิมกากน้ำตาลไม่มีราคาที่แน่นอนและเคยนำกากน้ำตาลไปใช้ราดถนนเพื่อลดฝุ่น  ของเสียเหล่านั้นเป็นภาระของผู้ประกอบการ โรงงาน  ซึ่งผลักดันให้ผู้ประกอบการโรงงานต่าง ๆ ต้องศึกษาคิดค้น วิธีการขจัดของเสียเหล่านั้น  หรือนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับของเสียเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์  เช่น  นำกากน้ำตาลผลิตแอลกอฮอล์หรือสุราแทนการใช้ข้าวเหนียว การดำเนินการดังกล่าวผู้ประกอบการต้องลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่  อย่างไรก็ตาม  ต่อมามีการขอให้นำ  กากน้ำตาลมาคิดเป็นผลพลอยได้ ซึ่งได้มีการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการกับชาวไร่อ้อย และภาคราชการ  จนได้ข้อสรุปให้นำรายได้จากกากน้ำตาลเข้าสู่ระบบแบ่งปันผลประโยชน์มาแล้ว 


ส่วนเอทานอลที่ผลิตได้จากกากน้ำตาล คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ขาดไปแล้วว่าผู้ประกอบการผลิตเอทานอลซื้อกากน้ำตาลไปผลิตอีกทอดหนึ่ง  ดังนั้น จึงไม่สามารถนำรายได้จากเอทานอลเข้าสู่ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันของเสียในระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลยังมีอีกหลายประเภท ซึ่งผู้ประกอบการโรงงานจะบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์คุ้มกับภาระค่าใช้จ่ายในการขจัดของเสียเหล่านั้น  อาทิ ชานอ้อย น้ำเสีย  ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการโรงงานพัฒนาการบริหารจัดการของเสียเหล่านั้น ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการนำเอาชานอ้อยไปผลิตไฟฟ้า การดำเนินการดังกล่าวผู้ประกอบการต้องลงทุน บริหารจัดการเป็นเงินลงทุนไม่น้อย ดังนั้น การจะนำเอารายได้จากกิจการดังกล่าวเข้าสู่ระบบแบ่งรายได้อีกนั้น ทาง 3 สมาคมน้ำตาลทรายพร้อมที่จะหารือภายใต้พื้นฐานความเป็นธรรม เพราะธุรกิจล้วนมีความเสี่ยงในการลงทุน

ส่วนการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศที่จะส่งผลให้การจัดเก็บเงิน 5 บาท เข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ที่เดิมเก็บจากผู้บริโภคน้ำตาลโดยตรงจะไม่มีอีกต่อไปนั้น  ทาง 3 สมาคมเห็นว่า กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายมีภาระหน้าที่ดูแลเสถียรภาพระบบอ้อยและน้ำตาลทรายในประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หลายด้านทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมถึงการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอ้อยอยู่แล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องพิจารณาจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ จากรายได้ของอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายต่อไป โดยอาจจัดเก็บสัดส่วนร้อยละ 0.5-2 ของราคาน้ำตาลทรายที่ผลิตได้แต่ละฤดูการผลิต ซึ่งอัตราการจัดเก็บจะผันแปรไปตามสภาวะราคาน้ำตาลทรายหลังลอยตัวราคาแล้ว ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายต่อเนื่อง ปัจจุบันเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงของการเจรจาถึงความเหมาะสมว่าจะจัดเก็บอัตราใดดี ที่เหมาะสมที่สุด

ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ ยังมีหนี้เงินกู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คงค้างประมาณ 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะชำระหนี้เสร็จภายในฤดูการผลิต 2560/2561 ทันกับช่วงการปล่อยลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย