ม.รังสิต 20 พ.ย. –สุริยะใสแนะนายกฯอย่าปรับครม.แค่ตัวบุคคล แต่ต้องสร้างแนวร่วมปฏิรูปประเทศ จัดลำดับความสำคัญของปัญหา ชี้ ประยุทธ์ 5 จะเป็นบทพิสูจน์เสียของหรือไม่
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า การปรับครม.อย่างเดียวคงไม่พอต่อการแก้ปัญหา รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องกล้าเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำงานด้วย โดยเฉพาะการเตรียมการหลาย ๆอย่างเพื่อส่งผ่านประเทศไปสู่รัฐบาลตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
“วิธีคิดที่เป็นปัญหาของรัฐบาล บางทีมองปัญหาผิด ทำให้การแก้ปัญหาผิดและเสียเวลาเสียของไปด้วย เช่น โจทย์เรื่องปฏิรูปประเทศ ถ้ายังไม่เข้าใจว่าต้นเหตุคือปัญหาโครงสร้าง ผูกขาด รวมศูนย์ก็จะเห็นแผนปฏิรูประดับปลายเหตุเท่านั้น แม้ประชาชนจะเห็นความตั้งใจทุ่มเทของนายกรัฐมนตรีที่ลงไปล้วงลูกทุกเรื่องทุกกระทรวง แต่วาระใหญ่ ๆ อาจจะดูล่าช้า ทำให้การขับเคลื่อนงานใหญ่ ๆ ไม่ชัด เช่น เรื่องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ได้แต่กรรมการและกรรมการเต็มไปหมด ดังนั้นต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหาให้ชัดขึ้น” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า ส่วนที่เคยบอกว่าคนเก่งๆ ปฏิเสธร่วมงานรัฐบาล ไม่น่าจะเป็นจริง ถ้ารัฐบาลให้โอกาสจริง ๆ และยิ่งเป็นรัฐบาลทหารยิ่งไม่ต้องติดปัญหาระบบโควต้า โอกาสได้คนดีคนเก่งมากขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลต้องมองหามิตรหาแนวร่วมด้านกว้างในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติมากขึ้น ไม่ใช่คาดหวังระบบราชการอย่างเดียว โดยเฉพาะพลังปฏิรูปในหมู่ประชาชนที่เป็นกระแสสูงในช่วงที่ผ่านมาดูซบเซาหายไปมาก เพราะด้านหนึ่งถูกรัฐบาลกันออกจากเวที และมองเป็นคนอื่นไปก็มี
“ครม.ประยุทธ์ 5 จะเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนรัฐบาลชุดนี้ก่อนพ้นวาระ และจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่า 4 ปี คสช.เสียของหรือไม่” นายสุริยะใส กล่าว.- สำนักข่าวไทย
