กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- ตำรวจ รวบโจรแสบตระเวนหลอกไฟไหม้บ้านก่อนขโมยทรัพย์สินประชาชน นอกจากนี้ยังอ้างตัวเป็นตำรวจ รีดเงิน ข่มขืนต่างด้าว
เวลา 15.30 น. พลตํารวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุมนายสมพร ออละวัลย์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ 7 หมาย และข้อหาข่มขืนโดยแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 หมาย ในพื้นที่ สน.ต่างๆ อาทิ สน.บางขุนเทียน นางเลิ้ง บวรมงคล พระโขนง พญาไท บุคคโล สุทธิสาร และสภ.สมุทรปราการ หลัง มีพฤติการณ์ออกอุบายอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน และทำทีเป็นพลเมืองดี แจ้งว่าพบเหตุไฟไหม้ในบ้านผู้เสียหาย ด้วยความตกใจและเป็นห่วงทรัพย์สินผู้เสียหาย จึงรีบเข้าไปตรวจสอบในบ้านโดยทิ้งทรัพย์สินและรถจักรยานยนต์ไว้ เมื่อเห็นว่าผู้เสียหายหลงเชื่อจึงขโมยดังกล่าวหลบหนีไป ตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร พบ ผู้ต้องหาก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่ และมีหมายจับรวมเกือบ 10 หมาย และในช่วงระหว่างปี 2530 ถึง 2559 มีหมายจับอีกรวมกว่า 8 หมาย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯปทุมธานีและสมุทรสาคร โดยใช้กลอุบายในลักษณะเดียวกัน
นอกจากนี้ผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์แสดงตัวแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจค้นหญิงสาว ชาวเมียนมาว่า มีเอกสารประจำตัวที่ถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะนำผู้เสียหายไปขอค้นตัวที่ห้องเช่ารายวันและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บก่อนข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งรายล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน่าที่จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณห้องเช่าที่เกิดเหตุจนพบความเคลื่อนไหวของครอบครัวนายสมพร ได้เก็บของออกจากที่พัก และไปกบดานอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านลำลูกกาคลอง 7 จังหวัดปทุมธานี และเฝ้าติดตามจนกระทั่งพบตัวนายสมพร
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวทั้งหมดจริงและทราบว่ามีตำรวจกำลังติดตามตัว จึงหนีมากบดานในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังใช้รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาตระเวนก่อเหตุ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ โดยทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ก็จะนำไปเลี้ยงดูครอบครัวและเที่ยวเตร่
ด้านพลตํารวจตรีสมพงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าว ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ทั้งเหตุลักทรัพย์และการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นเหยื่อของนายสมพร ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ใน สน. พื้นที่ หรือชี้ตัวผู้เสียหายที่สน.สุทธิสาร เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการออกหมายจับดำเนินคดีกับนายสมพร – สำนักข่าวไทย