รวบโจรแสบ สาดพริกป่นใส่หน้าเหยื่อก่อนชิงทรัพย์

เชียงใหม่ 23 มิ.ย. – รวบแล้วหนุ่มสาดพริกป่นใส่หน้าเหยื่อ ชิงทรัพย์ 2 รายติด รับสารภาพเงินที่ได้นำไปใช้จ่าย เล่นพนัน เที่ยวเตร่ และจ้างสาวเอ็นฯ ไปเที่ยว


จากกรณีตำรวจ สภ.เชียงดาว รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ 2 ราย รายแรกจากนางมาตร อายุ 35 ปี ถูกคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบ ก่อนใช้พริกป่นสาดใส่ใบหน้าทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม บริเวณถนนสาธารณะหมู่บ้านโรงวัว ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นคนร้ายชิงโทรศัพท์มือถือ

ขณะที่ผู้เสียหายรายที่ 2 คือ นางแปง อายุ 36 ปี ถูกคนร้ายก่อเหตุใช้พริกป่นสาดบริเวณใบหน้าเหมือนกัน ก่อนถูกชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท เงินสด 30,000 บาท เหตุเกิดบริเวณถนนสาธารณะทางไปไร่ข้าวโพดบ้านม่วงค้อน ต.เชียงดาว ก่อนคนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป


ตำรวจ สภ.เชียงดาว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี กระทั่งพบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่ จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุมคนร้ายคือ นายวิทูรย์ อายุ 28 ปี ที่หอพักย่านสันติธรรม

จากการสอบสวนนายวิทูรย์ให้การรับสารภาพว่ามือก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เชียงดาว จริง วันเดียวก่อเหตุ 2 ราย โดยวางแผนเช่ารถจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขี่กลับไปยังบ้านเกิด หลังจากนั้นซื้อพริกป่นที่ร้านขายของชำมาในราคาถุงละ 5 บาท 2 ถุง เพื่อใช้ก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายรายที่ 2 ผู้ต้องหารู้จักดี เนื่องจากเป็นคนที่ทำงานรับจ้างหักข้าวโพดด้วยกัน จึงรู้ว่าผู้เสียหายชอบพกเงินเยอะ จึงลงมือเหตุ

หลังก่อเหตุได้เปลี่ยนชุด ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าเมืองเชียงใหม่ และระหว่างทางนำเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุทิ้งป่าละเมาะข้างทาง เมื่อเดินทางมาถึง จ.เชียงใหม่ จึงนำทองที่ชิงทรัพย์มาไปขายที่ร้านทองย่านรวมโชค และ ขายใน จ.ลำพูน ก่อนนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปคืนร้านเช่ารถ จากนั้นใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งเงินที่ชิงทรัพย์มานั้นตนเองนำไปใช้จ่าย เล่นพนันฟุตบอล เที่ยวเตร่ และจ้างสาวเอ็นฯ ไปเที่ยวม่อนแจ่ม กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้


เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้