กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – เอกชนรุดหน้าโครงการ Solar rooftop ผลิตไฟฟ้าขายกันเองแบบ Smart Grid ด้านผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชี้ไม่มีสัญญาณฟองสบู่
บมจ.บีซีพีจีจับมือ บมจ.แสนสิริประกาศร่วมทำโครงการซื้อขายไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ต โดยใช้ blockchain technology มาดำเนินการ นับเป็นรายแรกของไทยภายใต้ Smart grid ที่บีซีพีจีจะลงทุนติดตั้ง Solar rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริเริ่มจากคอมมูนิตี้มอลล์T 77 ที่ถนนสุขุมวิทซอย 77 กทม.และโครงการอื่น ๆ เบื้องต้น 10 เมกะวัตต์ ติดตั้งไตรมาส 1/2561
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บีซีพีจี กล่าวว่า บีซีพีจียังวางแผนจะจับมือกับผู้ประกอบการโรงงานและหน่วยงานราชการ ภาพรวมปีหน้าจะติดตั้ง Solar Rooftop 30-50 เมกะวัตต์ เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ประเมินว่าค่าไฟฟ้าของผู้ติดตั้งจะลดลงร้อยละ 10
นายบัณฑิต ยังคาดหวังว่าจะร่วมกับพันธมิตรในการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าในโครงการของรัฐ คือ SPP hybrid Firm และ VSPP semi Firm คาดหวังน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 30 เมกะวัตต์ และยังตั้งเป้าเงินลงทุน 5 ปีข้างหน้าประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยไม่ตั้งเป้าหมายว่ากำลังผลิตจะเพิ่มเท่าใด เพียงแต่ตั้งเป้าหมายแต่ละปีจะขยายตัวร้อยละ 20 ของ EBITDA
ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังผลิตครบเป้าหมายที่ประกาศแผนงานก่อนหน้านี้แล้ว คือ เทียบเท่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1,000 เมกะวัตต์แล้ว โดยเป็นโครงการลงทุนพลังงานทดแทนทั้งในไทย/ญี่ปุ่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ กำลังผลิตรวม 585 เมกะวัตต์ จำนวนนี้ผลิตไฟฟ้าแล้ว 399 เมกะวัตต์ ที่เหลือทยอยเข้าระบบใน 3 ปีนี้ ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ลม พลังงานใต้พิภพ
นายอุทัย อุทัยแสนสุข ประธานบริหารสายงานปฏิบัติงานแสนสิริ ยังประเมินว่าบริษัทสนใจเทคโนโลยีใหม่และการใช้พลังงานสีเขียวต้นทุนต่ำกว่าระบบก็เป็นเรื่องที่ลูกค้าต้องการ โดยย้ำว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่มีแนวโน้มเกิดฟองสบู่ เพราะภาพรวม 2-3 ปีที่ผ่านมาชะลอตัว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า การส่งออกดีขึ้น มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอีกหลายโครงการ ทำให้อสังหาริมทรัพย์ขายดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย