Big Story : นายแพทย์ซี 10 แถลงเสียใจขับรถชน รปภ.สธ. อาการสาหัส พร้อมยอมรับผิด

นนทบุรี 13 พ.ย. – มีคลิปแชร์สนั่นในสังคมออนไลน์ กรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในกระทรวงสาธารณสุข ถูกรถชนและลากไปตามถนนบาดเจ็บสาหัส ตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นนายแพทย์ระดับซี 10 และเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีอาการมึนเมาหรือไม่ ล่าสุด นายแพทย์ที่ก่อเหตุได้ออกมาแสดงความเสียใจและขอรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 


นี่เป็นคลิปขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ  20.30 น. ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ารถยนต์ฮอนด้าสีขาวไม่ทราบทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วจากปากทางสถาบันบำราศนราดูร  มุ่งหน้าเข้ากระทรวงสาธารณสุข ขณะที่นายสมชาย ยามดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวง กำลังนำกุญแจมาคล้องประตูเพื่อปิดการจราจร แต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับพุ่งเข้าใส่ร่างนายสมชายอัดเข้ากับประตูอย่างแรง จนร่างนายสมชายมุดเข้าไปใต้ท้องรถ คนขับรถคันดังกล่าวยังเหยียบคันเร่งขับรถต่อไปอีกและลากร่างนายสมชายออกไปไกลถึง 20 เมตร จนสลบแน่นิ่งไป จากนั้นคนขับรถซึ่งสวมเสื้อสีฟ้า เปิดประตูลงมาด้วยสภาพเดินเซ ใบหน้าแดงก่ำ ส่วนนายสมชายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และเข้ารับการผ่าตัดสมองถึง 2 ครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว อยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ ขณะที่เมื่อวานนี้ทางญาติได้ทำพิธีเรียกขวัญผู้บาดเจ็บ 

ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า สภาพประตูและเสาที่เกิดเหตุมีรอยแตกร้าว ลักษณะเหมือนถูกพุ่งชนอย่างแรง ส่วนบริเวณผิวถนนยังพบร่องรอยของล้อรถยนต์ที่ลากร่าง รปภ.ออกไป แม้จะมีการทำความสะอาดแล้วก็ตาม


ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นพ.ยอร์น จิระนคร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นคนที่ขับรถชน รปภ.คนดังกล่าว ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โดยระบุว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งใจมายอมรับผิดและเจรจารับผิดชอบกับญาติผู้บาดเจ็บ 

นพ.ยอร์น เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขับรถเข้าไปกระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้เส้นทางลัดกลับบ้าน เมื่อไปถึงประตู 2 ที่เกิดเหตุ ถนนมืดมาก และเห็นว่ารถด้านหน้าพุ่งผ่านไปแล้ว จึงขับรถเข้าไป ไม่รู้ตัวว่าชนคน เข้าใจว่าชนกับประตู มารู้ตัวอีกทีเมื่อมีคนมาบอกว่าชนคน จึงได้หยุด ทั้งนี้ นพ.ยอร์น ปฏิเสธ ตอบคำถามว่าเมาแล้วขับหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องทางคดีความ แต่ยืนยันไม่มีเจตนา และไม่ได้ชนแล้วหนี หลังเกิดเหตุได้ลงไปดูผู้บาดเจ็บและได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจ

ส่วนอาการผู้บาดเจ็บล่าสุด มีภาวะสมองบวม และได้นำเลือดคลั่งในสมองออก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้มีการตอบสนองดีขึ้น แต่ยังถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤติ  


ขณะที่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะมีความผิดในระบบราชการหรือไม่ ต้องรอให้ผลทางคดีสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม เตรียมปรับเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณประตูทางเข้าออกของกระทรวงสาธารณสุขให้มากเพื่อลดอุบัติเหตุ     

ทั้งนี้ ตามมาตรา 43(2) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522  ระวางโทษเมาแล้วขับ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 

ส่วนเมาแล้วขับ ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ จำคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แต่หากเมาแล้วขับ แล้วเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุกตั้งแต่  2 – 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และหากถึงขึ้นเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ด้าน พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้ขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย นพ.ยอร์น แต่ได้รับการปฏิเสธ ไม่ยอมให้ตรวจ อ้างว่าไม่ได้ดื่มเหล้า ทางตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อจะเชิญตัวมาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา นพ.ยอร์น ได้ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำ โดยอ้างว่าบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอกจากการกระแทก ขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน จะมาให้ปากคำในวันหลัง ทางพนักงานสอบสวนเห็นว่า นพ.ยอร์น ไม่ได้หลบหนี ประกอบกับมีหน้าที่การงานชัดเจน จึงปล่อยตัวชั่วคราว เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขับรถขณะมึนเมา เพราะถึงแม้ว่าผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ตรวจวัดแอลกกอฮอล์ ทางกฎหมายก็ให้ถือว่ามีความผิด นอกจากนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำผิดในเรื่องใดเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติ่มต่อไป

ผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่า เห็น รปภ.กำลังปิดประตู มีรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนประตูรั้วอย่างแรง จน รปภ.กระเด็นล้มลงไปนอนกับพื้น รถเก๋งคันดังกล่าวชะลอรถ ก่อนจะขับรถทับร่าง รปภ.ลากไปกับพื้นถนน ต่อมาตำรวจได้มาที่เกิดเหตุและพยายามขอตรวจวัดแอลกกอฮอล์ แต่คนขับรถปฏิเสธ ซึ่งจากที่สังเกตดูเห็นว่าคนขับรถน่าจะอยู่ในอาการมึนเมา. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย