เขตหลักสี่ 13 พ.ย.-ตอบคำถามนายกรัฐมนตรี 4+6 ข้อ ที่เขตหลักสี่ ยังเงียบเหงา พบเช้าถึงช่วงบ่าย ยังไม่ถึง 10 คน
บรรยากาศของประชาชนในการออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นคำตอบของนายกรัฐมนตรี ตามแบบสอบถาม 4+6 ข้อ คือเป็นคำถามที่นายกรัฐมนตรีถามเดิม 4 ข้อและคำถามล่าสุด 6 ข้อ รวม 10 ข้อ
ประเด็นหลักอยู่ที่ “จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองใหม่ หรือนักการเมืองหน้าใหม่ที่มีคุณภาพในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ เพื่อให้การปฏิรูปประเทศต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ชาติ” , “คสช. มีสิทธิสนับสนุนพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะ นายกรัฐมนตรี ไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว” ,
“รัฐบาลและการเมืองจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ธรรมาภิบาล และพัฒนาประเทศต่อเนื่องชัดเจนเพียงพอหรือไม่” โดยเจ้าหน้าที่ ห้ามชี้แนะคำตอบ อย่างเด็ดขาด
วันนี้ (13 พ.ย.) ถือเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชน ตอบคำถามทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปติดตามบรรยากาศที่สำนักงานเขตหลักสี่ ทางเขตได้ตั้งโต๊ะให้ประชาชนตอบคำถามและเปิดศูนย์รับฟังความเห็นประชาชนฯพร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตอบข้อสงสัย
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายบรรยกาศถือว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีประชาชนมาติดต่อสอบถามน้อยมาก ล่าสุดยอดผู้มาตอบคำถามในเขตหลักสี่มีไม่ถึง 10 คน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ ย้ำว่าประชาชนที่จะมาตอบคำถามต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ราชการออกให้ซึ่งมีภาพใบหน้า และเลขประจำตัว 13 หลัก เช่น พาสปอร์ต บัตรข้าราชการใบขับขี่ มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ก่อนรับแบบสอบถาม โดยผู้เคยตอบคำถาม 4 ข้อ ของนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นได้อีก
นายนาวี อุจวาที อายุ 62 ปี ประชาชนในเขตหลักสี่ กล่าวว่า ตั้งใจจะมาตอบแบบสอบถามของนายกฯโดยเฉพาะ เพราะการตอบคำถามเมื่อกลางปี ไม่ทราบข่าวจึงไม่ได้มา ส่วนตัวไม่ได้เชียร์ หรือสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แต่มองว่าการให้ประชาชนตอบคำถาม รับฟังความเห็นของคนส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบการเมืองในอนาคต ทั้งนี้ตนอยากให้มีการเลือกตั้ง แต่หากกฎหมาย หรือขั้นตอนอะไรยังไม่เรียบร้อยก็ไม่ควรรีบร้อน เพราะอยากให้ทุกฝ่ายทุกอย่างพร้อมแล้วค่อยดำเนินการก็ไม่ถือว่าเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเปิดให้ประชาชนตอบคำถาม ยังไม่กำหนดระยะ เวลาสิ้นสุด โดยแต่ละจังหวัดจะต้องสรุปผลการตอบแบบสอบถาม และ แสดงความคิดเห็นทุก 10 วันทำการ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จะรวบรวมสรุป เสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป.-สำนักข่าวไทย