ทำเนียบรัฐบาล 13พ.ย.-โฆษกกลาโหมระบุไทยได้รับการเลื่อนลำดับเป็นประเทศที่มีความสำเร็จมากในการแก้ปัญหาใช้แรงงานเด็ก ส่งผลให้มีความน่าเชื่อถือระดับสากล ส่งสินค้าออกดีขึ้น เศรษฐกิจขยายตัว เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์ต่อเนื่อง
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการจัดลำดับสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ประจำปี 2016 ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา โดยในปีนี้ไทยได้รับการเลื่อนลำดับจากประเทศที่มีความสำเร็จปานกลางเป็นประเทศที่มีความสำเร็จมาก ซึ่งถือว่าเป็นลำดับสูงสุด ทำให้ไทยมีความน่าเชื่อถือในระดับสากลมากขึ้น และเป็นการสร้างโอกาสการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัว
ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ไทยถูกจัดอันดับเทียร์ 2 หรือประเทศที่ต้องจับตาเป็นปีที่สองติดต่อกัน โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการคัดแยกผู้เสียหายตั้งแต่ศูนย์แรกรับ การช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในต่างประเทศ รวมถึงการขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายในระดับสากลตามอนุสัญญาการค้ามนุษย์ โดยตั้งแต่วันที่ 7 – 15 พฤศจิกายนนี้ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อตรวจสอบการแก้ปัญหา 3 เรื่อง ประกอบด้วย การตรวจสอบเรื่องการขนส่งสัตว์น้ำที่จังหวัดตราด ข้อมูลเรือประมงที่ถูกถอนทะเบียน ซึ่งภาครัฐควบคุมเรือไว้ทั้งหมดเพื่อรอการตรวจสอบ และผลการติดตามการบังคับใช้กฎหมายกรณีเรือประมงที่ออกไปนอกน่านน้ำ ซึ่งเป็นการตรวจสอบเรือประมงผิดกฎหมายในทะเล
“สำหรับความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การประมงที่ขาดการรายงานและการประมงที่ขาดการควบคุม (ไอยูยู) ซึ่งรัฐบาลพยายามเร่งรัดแก้ปัญหามาตลอด ซึ่งไทยจะประชุมเพื่อจัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา(ทิปรีพอร์ต) ประจำปี 2560 ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก่อนปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2560 เพื่อจัดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาพิจารณาภายในวันที่ 31 มกราคม 2561” พล.ท.คงชีพ กล่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลต่อไป ซึ่งนอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ให้ทบทวนต่อยอดเป็นยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาระยะยาว เพื่อเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญการดูแลสิทธิแรงงานทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างเท่าเทียม พร้อมกำชับให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดการทุจริต
ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ปลดธงแดงประเทศไทย โดยล่าสุดได้ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่อีก 13 สายการบิน คงเหลืออีก 9 สายการบินที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องสถานีหลัก การตรวจสอบภาคอากาศ แลเอกสารหลักฐาน ซึ่งพล.อ.ประวิตร กำชับให้ไทยดำรงมาตรฐานสายการบินเช่นนี้ต่อไป เพื่อผลักดันให้ไทยเข้าสู่แนวหน้าเรื่องการบิน.- สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2017/11/1510556368526.jpg)