กำชับขรก.เร่งแก้ประมงผิดกม. หากล่าช้าถือบกพร่อง

ทำเนียบรัฐบาล 4 ต.ค.-รองนายกฯ ย้ำประชุมขับเคลื่อนเร่งแก้ปัญหาประมงผิดกฏหมาย ไม่ได้เอาใจอียูและสหรัฐ กำชับขรก.ยึดประโยชน์ชาติ หากล่าช้าถือว่าบกพร้องในหน้าที่


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลัง การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมติดตามความคืบหน้า การทำประมงผิดกฏหมาย ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และมีเป้าหมายหลุดจากใบเหลืองของ IUU ในเดือนมีนาคมปี 2561 รวมถึงมีเป้าหมายต้องเลื่อนอันดับให้พ้นจากเทียร์ 2 ให้ได้ในปีหน้าเช่นกัน 

“รองนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายเร่งขับเคลื่อนเพื่อประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ทันท่วงที หากล่าช้าจะถือว่าบกพร่องในหน้าที่ และการดำเนินการของไทยไม่ได้ทำเพื่อเอาใจอียู ไม่ได้เอาใจสหรัฐ แต่ต้องทำให้ถูกหลักกฏหมาย หลักสิทธิมนุษยชน อีกทั้งให้กรมประมงได้ตรวจสอบแบบย้อนกลับให้เรียบร้อยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้  ทั้งการประสานกับหน่วยงานด้านปกครอง แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทุกประเด็น  กรมเจ้าท่า เร่งประสานกองทัพเรือตรวจสอบเรือที่ขอเข้ามาในน่านน้ำไทยอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง หากต้องสงสัยให้ตรวจละเอียดกว่าเดิม ดูแลทุกอย่างให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้  ให้อัยการสูงสุดออกมาตรการเร่งรัดเพื่อฟ้องคดีค้ามนุษย์ ลดขั้นตอนทางธุรการเพื่อให้ผลการฟ้องร้องดำเนินคดีเร็วขึ้น ปรับการจ่ายเงินให้นายจ้างจ่ายเงินลูกเรือผ่านระบบ e payment เป็นต้น” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.