การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเสร็จสิ้นแล้ว

เวียดนาม 11 พ.ย.-  การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเสร็จสิ้นแล้ว โดยนายกฯ ได้เสนอ 3 มุมมองของไทย ที่เอเปคควรให้ความสำคัญและดำเนินการต่อเนื่อง  ขณะที่ วิสัยทัศน์เอเปค หลังปี 2020   ควรเน้นส่งเสริมการค้าเสรีและธรรมาภิบาลโลกที่เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาที่มีคุณภาพและครอบคลุม  


“พัทธนันท์ สงชัย” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 25 ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2560 รายงานว่า เวลา 13.45 น. วันนี้ (11 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับประเทศไทย  นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค ช่วงที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “พลังขับเคลื่อนใหม่ทางการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงในภูมิภาค” (New Drivers for Regional Trade, Investment and Connectivity) ณ ห้องประชุมผู้นำเอเปค โรงแรมคอนติเนนตัล ดานัง รีสอร์ท  

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอมุมมองของไทยใน 3 ประเด็น ที่เอเปคควรให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาแรงผลักดันของเอเปคในเวทีระหว่างประเทศในห้วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ คือ ปฏิรูปโครงสร้างภายใน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแต่ละเขตเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้ จึงมีนโยบายประเทศไทย 4.0 


 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  การสร้างความเชื่อมโยงอย่างรอบด้านในทุกมิติ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตที่ครอบคลุม และยั่งยืน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง  ไทยจึงได้เตรียมความพร้อมในด้านความเชื่อมโยงทางดิจิทัล โดยได้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมผ่านโครงการเน็ตประชารัฐ ด้วยการขยายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในหมู่บ้านทั่วประเทศในปีนี้  พร้อมลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศระบบ Asia-Africa-Euroupe-1 (AAE-1) ความยาว 25,000 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาโครงข่ายระหว่างประเทศเชื่อมไทยสู่ทั่วโลก 

“ไทยกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ ในการต่อยอดโครงการบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค  (APEC Business Travel Card หรือ ABTC) โดยพัฒนาบัตรในลักษณะเดียวกันให้แก่กลุ่มนักศึกษาและนักวิจัย ซึ่งสอดรับกับแผนแม่บทความเชื่อมโยงในเอเปค (APEC Connectivity Blueprint 2015-2025) ที่มุ่งให้เกิดการเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างแท้จริงในปี 2568 (ค.ศ. 2025)” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ท่ามกลางกระแสการปกป้องทางการค้า และการต่อต้านโลกาภิวัฒน์  ไทยเห็นว่า เอเปคควรแสดงบทบาทนำ ในการเรียกความเชื่อมั่นต่อระบอบการค้าเสรี   สื่อสารผลประโยชน์ของการค้าเสรีให้แก่สาธารณชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง   การตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) เป็นสิ่งท้าทายของภูมิภาค และไทยหวังจะเห็นความคืบหน้าในการเจรจาการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก ครั้งที่ 11 และยินดีที่ความตกลงการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement) ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลกมีผลบังคับใช้ 


นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดี ที่บรรดาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคมีวิสัยทัศน์อันยาวไกล และได้เริ่มคิดวางแผนแนวทางกำหนดวิสัยทัศน์เอเปค หลังปี 2563 (ค.ศ. 2020) ซึ่งไทยเห็นว่าควรเน้นการส่งเสริมการค้าเสรีและธรรมาภิบาลโลกที่เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาที่มีคุณภาพและครอบคลุม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในภูมิภาคและโลกต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 25 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยก่อนพิธีปิดอย่างเป็นทางการ ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญาผู้นำเอเปค 4 ฉบับ ว่าด้วยการส่งเสริมความก้าวหน้าในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ  ความร่วมมือในการพัฒนาคน  ส่งเสริมเอสเอ็มอี และส่งเสริมสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรม 

จากนั้น  วันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ต่อไป        .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.