สำนักข่าวไทย 11 พ.ย.-สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
เผย 10 ขั้นตอน
การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน(CPR) อย่างถูกวิธี เพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยรอดชีวิต ลดการบาดเจ็บ
1.เมื่อพบคนหมดสติ
ให้ตรวจดูความปลอดภัย ก่อนเช้าไปช่วยเหลือ เช่น ระวังอุบัติเหตุ ไฟช็อต
หรือความเสี่ยงที่อาจเกิดซ้ำ
2.ปลุกเรียกผู้ป่วยด้วยเสียงที่ดัง
และตบไหล่ทั้งสองข้าง หากผู้ป่วยรู้สึกตัว
หายใจเองได้ ให้จัดท่านอนตะแคง
แต่หากยังไม่หายใจ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
3.โทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 พร้อมนำเครื่องเออีดีมา
4.ประเมินผู้ป่วย
หากไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
ให้ทำการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพทันที
5.ช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ
ด้วยการกดหน้าอก จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงาย วางสันมือข้างหนึ่งตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก
และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอก ด้วยความลึกอย่างน้อย 5 ซม.
ในอัตราเร็ว 100-120 ครั้ง/นาที
6.หากมีเครื่องเออีดี ให้เปิดเครื่องถอดเสื้อผ้าผู้ป่วยออก
7.ติดแผ่นเออีดี หรือแผ่นนำไฟฟ้า
บริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา และชายโครงด้านซ้าย และห้ามสัมผัสตัวผู้ป่วย
8.ปฏิบัติตามที่เครื่องเออีดีแนะนำ
คือ หากเครื่องสั่งให้ช็อกไฟฟ้า ให้กดปุ่มช็อก
และทำการกดหน้าอกหลังทำการช็อกทันที แต่หากเครื่องไม่สั่งช็อก
ให้ทำการกดหน้าอกต่อไป
9.กดหน้าอกต่อเนื่อง ทำ CPR และปฏิบัติตามคำแนะนำของเครื่องเออีดี
จนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึง
10.
ส่งต่อผู้ป่วยให้กับทีมกู้ชีพเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและปลอดภัย
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร
เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ระบุการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน
(CPR) คือการปฏิบัติการเพื่อช่วยชีวิตคนที่หัวใจหยุดเต้น
หรือคนที่หยุดหายใจอย่างกะทันหัน เพื่อทำให้หัวใจที่หยุดเต้น
สามารถกลับมาเต้นใหม่ได้ เลือดไปเลี้ยงสมองได้
มีการหายใจและการไหลเวียนกลับคืนสู่สภาพเดิม
ตามหลักแล้วหากสมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยงเกินกว่า 4 นาที
จะทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์สมองบางส่วนไปได้อย่างถาวร โดยการช่วยฟื้นคืนชีพจะได้ผลดี
ต้องทำควบคู่กับการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือ AED
จะเพิ่มโอกาสรอดได้ถึง 45%.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก สสส และ สพฉ