กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม 60 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 76.7 หลังการเมืองมีเสถียรภาพและผู้บริโภคหวังว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและท่องเที่ยว มั่นใจเศรษฐกิจไทยขาขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2560 ว่า ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้เริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่เป็นการจับจ่ายอย่างระมัดระวัง
ส่วนภาพรวมการจับจ่ายช่วงปลายปี ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ มองว่ายากที่จะประเมินว่านโยบายช้อปช่วยชาติจะมีเงินเข้าระบบ 20,000 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลคาดหวังได้จริงหรือไม่ เพราะรัฐเลือกทำช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบ ซึ่งจากครั้งก่อนมาตรการช้อปช่วยชาติจะมีเงินหมุนเวียนเข้าระบบประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยส่วนตัวมองว่าการกระตุ้นการจับจ่ายช่วงเดือนพฤศจิกายนจะช่วยเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้เร็วขึ้นจากปกติช่วงเดือนธันวาคมที่เป็นช่วงของการจับจ่ายเดิมอยู่แล้ว เมื่อกำหนดมาตรการเร็วขึ้นก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินใหม่เข้ามาในระบบ ทั้งจากแรงจูงใจด้านการลดภาษีและการที่ผู้ผลิตต้องสตอควัตถุดิบเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความคึกคักในการจับจ่ายน่าจะเริ่มดีขึ้น แม้ประชาชนจะยังมีความระมัดระวัง เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 15,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเม็ดเงินจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนปลายปีประมาณ 20,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นจีดีพี เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1
ทั้งนี้ หอการค้าไทยจะทำการประเมินเศรษฐกิจภาพรวมอีกครั้งปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ในการประชุมสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะนำผลคาดการณ์ทางเศรษฐกิจปีนี้ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้แน่ร้อยละ 3.9 ขณะที่จีดีพีปี 2561 จะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.2 มาจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตและจะมีการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนอีกด้วย แต่สิ่งที่ต้องติดตามปัจจัยลบปีหน้าจะอยู่ที่ว่าจะเกิดสงครามโลกหรือไม่. – สำนักข่าวไทย