กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – กรมชลประทานระดมเครื่องจักร พร้อมกำลังพลรับมือฝนตกหนัก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เร่งพร่องน้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ เคลียร์เส้นทางระบายน้ำ สั่งเฝ้าระวังเมืองหาดใหญ่ มั่นใจคลองภูมินาถดำริช่วยให้พ้นวิกฤติ
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่งปรากฏฝนตกหนักต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา 136 มิลลิเมตร ที่อำเภอบางสะพาน กรมชลประทานได้สั่งการให้มีการเดินเครื่องสูบน้ำคู่ขนานและเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัด คือ พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ว่า ขณะนี้ฝนยังตกระดับปกติ อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญ 3 แห่ง เพื่อรอรับฝนที่จะตกเหนืออ่าง ฯ คือ อ่างเก็บน้ำสะเดา อ่างเก็บน้ำคลองหลา และอ่างเก็บน้ำจำไหล ซึ่งจะสามารถรองรับน้ำรวมกันได้ประมาณ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับพื้นที่สำคัญเฝ้าระวังพิเศษ คือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งกรมชลประทานเตรียมความพร้อมด้วยการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ วัชพืชทางน้ำภายในคลองอู่ตะเภา และคลองคลองภูมินาถดำริ (คลองระบายน้ำ ร.1) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือระบายน้ำไม่ให้เข้าท่วมตัวเมืองหาดใหญ่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ทุกบริเวณที่เคยท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะที่ลุ่มเชื่อมกับคลองภูมินาถดำริและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางหยีที่ปลายคลองภูมินาถดำริไว้คอยดันน้ำให้ออกสู่ทะเลสาบสงขลาเร็วขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกจุด หากดีเปรสชั่นเข้าหรือฝนตกหนักสามารถเดินเครื่องทำงานได้ทันที
“ปีนี้หาดใหญ่มีการเตรียมความพร้อมรับมือหน้าฝนมากที่สุด เนื่องจากความก้าวหน้าของโครงการปรับปรุงคลองภูมินาถดำริสามารถระบายน้ำมากกว่าเดิมที่ระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากยังไม่เสร็จสมบูรณ์” นายสมเกียรติ กล่าว
ส่วนจังหวัดพัทลุง ตรัง และสตูล ได้ส่งเครื่องจักร เครื่องมือไปไว้ที่ชลประทานแต่ละจังหวัด โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 56 เครื่องในพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยง พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 35 เครื่อง หากพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมสามารถส่งเครื่องจักรเครื่องมือเข้าพื้นที่ประสบภัยได้ภายใน 2 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นจังหวัดอยู่ติดทะเลสามารถระบายน้ำออกได้เร็ว จึงหมดห่วงเรื่องน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และรถแบ็คโฮ ไว้พร้อมเข้าพื้นที่ประสบภัยภายใน 2 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย
