ก.คลัง 6 พ.ย. – กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการสละสิทธิ์ผู้สูงอายุพรุ่งนี้ ก่อนเริ่มใช้ 1 ธ.ค.นี้ พร้อมเตรียมเพิ่มมาตรการภาษีดึงคนเกษียณทำงาน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) กระทรวงการคลังเตรียมเสนอโครงการสละสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้ ครม. เพื่อให้โครงการมีผล บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป โดยหลักการเพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะดี หรือไม่จำเป็นต้องใช้เบี้ยยังชีพสามารถสละสิทธิ์การรับเบี้ย เพื่อส่งเงินนำเข้ากองทุนผู้สูงอายุ หลังจากนั้นจะนำเงินดังกล่าวไปจัดสรรเป็นเงินสงเคราะห์ เพื่อการยังชีพสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยจะเปิดให้สละสิทธิ์อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีจำกัดระยะเวลา
สำหรับการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี วันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเพิ่มในการดูแลผู้สูงอายุ โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปจัดทำโครงการดึงคนเกษียณมาทำงาน เพื่อเป็นการสร้างรายได้และลดภาระงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งแนวทางอาจมีการใช้มาตรการภาษี เพื่อจูงใจให้บริษัทห้างร้าน เอกชนว่าจ้างผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มแรงงานระดับไม่สูง หรือมีรายได้ขั้นต่ำเข้ามาทำงาน โดยจะสามารถมีสิทธิ์นำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย แต่ส่วนผู้สูงอายุที่เป็นระดับผู้บริหารที่ถูกจ้างไปเป็นผู้บริหาร หรือที่ปรึกษาจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการออกมาตรการดังกล่าวเพื่อรับมือไทยก้าวสู่สังคมสูงวัย โดยนอกจากโครงการสละสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว รัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุฉบับใหม่ กำหนดแหล่งเงินเพิ่มสำหรับกองทุนผู้สูงอายุ โดยให้ได้รับเงินบำรุงกองทุนในอัตราร้อยละ 2 ของภาษีที่เก็บจากสินค้าสุราและยาสูบ ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต แต่ไม่เกินปีละ 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจาก 600 – 1,000 บาทต่อเดือนตามอายุของคนแก่ เพิ่มเป็น 900 – 1,300 บาทต่อเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าวันพรุ่งนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีการเสนอมาตรการช้อปช่วยชาติให้ ครม.พิจารณา เพื่อให้คนไทยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงสิ้นปีด้วย. -สำนักข่าวไทย