หน่วยงานการบินพร้อมรับเทศกาลลอยกระทง

กรุงเทพฯ  3 พ.ย. – บวท.เตรียมมาตรการรองรับความปลอดภัยด้านการบินช่วงเทศกาลลอยกระทง หลังพบเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่เทศกาลโคมลอยกระทบเที่ยวบินท่าอากาศยานเชียงใหม่ 17 สายการบิน แจ้งปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน 78 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบิน 113 เที่ยวบิน


บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) รายงานว่า สำหรับมาตรการลอยกระทงปี 2560 จากข้อมูลพบว่าปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 1 – 5 พฤศจิกายนนี้ เฉลี่ยร้อยละ 6 จากเดิม 12,480 เที่ยวบิน เป็น 13,289 เที่ยวบิน 

ขณะที่ได้วางแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย คือ บริเวณแนวขึ้น – ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบสนามบินรัศมี 8 กิโลเมตร และการกำหนดช่วงเวลาให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงทำการบินในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม อีกทั้งการจัดเตรียมอัตรากำลังเพิ่ม และเสริมบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการควบคุมจราจรทางอากาศมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลดังกล่าว นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมในการส่งต่อข้อมูลการแจ้งรายงานของนักบินที่พบเห็นสิ่งแปลกปลอมที่ขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครื่องบิน


ส่วนพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณีโคมลอยในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยจังหวัดเชียงใหม่กำหนดให้ประชาชนจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ ตั้งแต่เวลา 19.00-01.00 น. ในวันที่ 3 – 4 พฤศจิกายน 2560 สำหรับโคมควัน (ว่าวฮม) ให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 10.00 -12.00 น. ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินอากาศ ระหว่างวันที่ 2 – 3 พฤศจิกายน 2560 สายการบินที่เดินทางมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ 17 สายการบิน จึงได้ปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินรวม 78 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบินรวม 113 เที่ยวบิน

ทั้งนี้ บวท.ได้ขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลเพื่อดำเนินกิจกรรมโคมลอย โคมควัน และจุดพลุ เช่น การให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการแจ้งข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยการเดินอากาศ หรือการออกประกาศนักบิน (NOTAM) ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ทาง www.caat.or.th จะส่งให้ กพท. และ บวท.ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนจุดพลุให้แจ้งหอบังคับการบินล่วงหน้า 10 นาที บวท.จะนำข้อมูลดังกล่าวมาวางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้เกิดความปลอดภัย หลังเสร็จกิจกรรมให้แจ้งหอบังคับการบินทางโทรศัพท์

ขณะที่ในเขตกรุงเทพมหานครต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขต เพื่อจะได้มีการประสานงานตามขั้นตอนรายงานหน่วยงานการบินที่เกี่ยวข้อง สำหรับนายอำเภอท้องที่หรือจังหวัด ซึ่งรับผิดชอบในเขตพื้นที่ที่จะจุดและปล่อยต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของประกาศจังหวัดนั้น ๆ  


เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน การบินไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปีหลายจังหวัดทางภาคเหนือได้จัดให้มีการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ การปล่อยโคมลอยอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของการปฏิบัติการบิน บริษัทฯ จึงทำการปรับตารางการบินและยกเลิกบางเที่ยวบินในช่วงวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 ประกอบด้วย ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป – กลับ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 ได้แก่ เที่ยวบินทีจี 120 เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560, เที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560

ปรับเปลี่ยนเวลาบิน ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เที่ยวบินทีจี 103 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560  จากเดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.05. น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.25 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 09.55 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.15 น.  เที่ยวบินทีจี 105 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560  เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.40 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.55 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 12.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.15 น.,เที่ยวบินทีจี 116 วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เดิมออกจากกรุงเทพฯ เวลา 17.10 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 18.30 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.00 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 17.10 น. เที่ยวบินทีจี 117 วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 19.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 20.40 น.ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 18.00 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 19.10 น. ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถดูรายละเอียดตารางการบิน สำรองที่นั่ง และออกบัตรโดยสารได้ที่ thaiairways.com หรือโทรศัพท์สอบถามที่ THAI Contact Center โทร 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายประยูร  ช่วยแก้ว  รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่าในวันลอยกระทง ประจำปี 2560 ซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤศจิกายน  หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดงานลอยกระทงขึ้น  เพื่อสืบสานประเพณีไทย รวม 30 แห่ง เช่น   Asia tique the riverfront, สวนลุมพินี, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, สะพานพระราม 8, เขาดินวนา, วัดอรุณราชวราราม, สวนสยามลอยกระทงมิดไนท์, ดรีมเวิลด์ลอยกระทงโต้รุ่ง และท่ามหาราช เป็นต้น ขสมก. เตรียมจัดเดินรถโดยสารออกวิ่งให้บริการประชาชนอย่างเต็มอัตรา  โดยจัดรถวิ่งบริการ  2,546 คัน 21,442 เที่ยววิ่ง ได้แก่ เส้นทางปกติเพิ่มจำนวนรถ  เที่ยววิ่ง  และการเปลี่ยนกะของพนักงานประจำรถ  ทั้งกะเช้า  กะบ่าย  และกะสว่าง 117 เส้นทาง และขยายเวลาการเดินรถจากปกติออกไปอีก 1 ชั่วโมง 

จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ  4  สถานี รวม  37  เส้นทาง  คือ สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) 13 เส้นทาง ได้แก่ 3, 16, 26, 49, 77, 96, 134, 136, 138,  145, 509, 517 และ 536 สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย)  8  เส้นทาง ได้แก่ 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511 สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่)  6 เส้นทาง ได้แก่ 66, 79, 511, 515, 516 และ 556  สถานีรถไฟหัวลำโพง  10 เส้นทาง ได้แก่ 4, 7, 21, 25, 29, 34, 73, 73ก, 75 และ 501 และจัดเดินรถ  AIRPORT  BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยานดอนเมือง  5 เส้นทาง  ประกอบด้วย สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร วันละ 15 คัน, สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  วันละ 8 คัน, สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี  วันละ 6 คัน, สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง วันละ 6 คัน, สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง วันละ 8 คัน

ด้านมาตรการเพื่อความปลอดภัย มีการเตรียมความพร้อมของรถโดยสาร ขสมก.ได้เข้มงวดตรวจเช็คการซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามแผน และระเบียบปฏิบัติ โดยให้หัวหน้างานคอยย้ำเตือนพนักงานประจำรถให้ตรวจสอบสภาพรถ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบอย่างละเอียดถี่ถ้วน  และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการ  เช่น  ระบบไฟฟ้า ระบบเบรค ประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ การติดตั้งเครื่องดับเพลิง เป็นต้น การเตรียมความพร้อมของพนักงานประจำรถ ให้หัวหน้างาน ตรวจความพร้อมร่างกายของพนักงานประจำรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจใบอนุญาตขับขี่ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ตักเตือนพนักงาน  ขับรถให้เปิดประตูเมื่อรถจอดสนิท และปิดประตูก่อนนำรถออกจากป้าย ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ไม่ขับปาดซ้ายปาดขวาหรือขับแข่งแซงกัน ไม่จอดแช่ป้าย เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด และให้ระวังผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน รวมถึงให้พนักงานเก็บค่าโดยสารช่วยดูแลอำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลงรถเมล์แก่ผู้ใช้บริการเป็นกรณีพิเศษ  จัดพนักงานสายตรวจพิเศษ นายตรวจ  ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณวัดที่รถวิ่งผ่าน และตามป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย