กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – บวท.เตรียมมาตรการรองรับความปลอดภัยด้านการบินช่วงเทศกาลลอยกระทง หลังพบเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่เทศกาลโคมลอยกระทบเที่ยวบินท่าอากาศยานเชียงใหม่ 17 สายการบิน แจ้งปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน 78 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบิน 113 เที่ยวบิน
บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) รายงานว่า สำหรับมาตรการลอยกระทงปี 2560 จากข้อมูลพบว่าปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 1 – 5 พฤศจิกายนนี้ เฉลี่ยร้อยละ 6 จากเดิม 12,480 เที่ยวบิน เป็น 13,289 เที่ยวบิน
ขณะที่ได้วางแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย คือ บริเวณแนวขึ้น – ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบสนามบินรัศมี 8 กิโลเมตร และการกำหนดช่วงเวลาให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงทำการบินในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม อีกทั้งการจัดเตรียมอัตรากำลังเพิ่ม และเสริมบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการควบคุมจราจรทางอากาศมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลดังกล่าว นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมในการส่งต่อข้อมูลการแจ้งรายงานของนักบินที่พบเห็นสิ่งแปลกปลอมที่ขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครื่องบิน
ส่วนพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณีโคมลอยในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยจังหวัดเชียงใหม่กำหนดให้ประชาชนจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ ตั้งแต่เวลา 19.00-01.00 น. ในวันที่ 3 – 4 พฤศจิกายน 2560 สำหรับโคมควัน (ว่าวฮม) ให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 10.00 -12.00 น. ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินอากาศ ระหว่างวันที่ 2 – 3 พฤศจิกายน 2560 สายการบินที่เดินทางมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ 17 สายการบิน จึงได้ปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินรวม 78 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบินรวม 113 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ บวท.ได้ขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลเพื่อดำเนินกิจกรรมโคมลอย โคมควัน และจุดพลุ เช่น การให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการแจ้งข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยการเดินอากาศ หรือการออกประกาศนักบิน (NOTAM) ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ทาง www.caat.or.th จะส่งให้ กพท. และ บวท.ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนจุดพลุให้แจ้งหอบังคับการบินล่วงหน้า 10 นาที บวท.จะนำข้อมูลดังกล่าวมาวางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้เกิดความปลอดภัย หลังเสร็จกิจกรรมให้แจ้งหอบังคับการบินทางโทรศัพท์
ขณะที่ในเขตกรุงเทพมหานครต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขต เพื่อจะได้มีการประสานงานตามขั้นตอนรายงานหน่วยงานการบินที่เกี่ยวข้อง สำหรับนายอำเภอท้องที่หรือจังหวัด ซึ่งรับผิดชอบในเขตพื้นที่ที่จะจุดและปล่อยต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของประกาศจังหวัดนั้น ๆ
เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน การบินไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปีหลายจังหวัดทางภาคเหนือได้จัดให้มีการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ การปล่อยโคมลอยอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของการปฏิบัติการบิน บริษัทฯ จึงทำการปรับตารางการบินและยกเลิกบางเที่ยวบินในช่วงวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 ประกอบด้วย ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป – กลับ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 ได้แก่ เที่ยวบินทีจี 120 เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560, เที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560
ปรับเปลี่ยนเวลาบิน ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เที่ยวบินทีจี 103 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 จากเดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.05. น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.25 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 09.55 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.15 น. เที่ยวบินทีจี 105 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.40 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.55 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 12.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.15 น.,เที่ยวบินทีจี 116 วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เดิมออกจากกรุงเทพฯ เวลา 17.10 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 18.30 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.00 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 17.10 น. เที่ยวบินทีจี 117 วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 19.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 20.40 น.ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 18.00 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 19.10 น. ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถดูรายละเอียดตารางการบิน สำรองที่นั่ง และออกบัตรโดยสารได้ที่ thaiairways.com หรือโทรศัพท์สอบถามที่ THAI Contact Center โทร 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่าในวันลอยกระทง ประจำปี 2560 ซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤศจิกายน หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดงานลอยกระทงขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีไทย รวม 30 แห่ง เช่น Asia tique the riverfront, สวนลุมพินี, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, สะพานพระราม 8, เขาดินวนา, วัดอรุณราชวราราม, สวนสยามลอยกระทงมิดไนท์, ดรีมเวิลด์ลอยกระทงโต้รุ่ง และท่ามหาราช เป็นต้น ขสมก. เตรียมจัดเดินรถโดยสารออกวิ่งให้บริการประชาชนอย่างเต็มอัตรา โดยจัดรถวิ่งบริการ 2,546 คัน 21,442 เที่ยววิ่ง ได้แก่ เส้นทางปกติเพิ่มจำนวนรถ เที่ยววิ่ง และการเปลี่ยนกะของพนักงานประจำรถ ทั้งกะเช้า กะบ่าย และกะสว่าง 117 เส้นทาง และขยายเวลาการเดินรถจากปกติออกไปอีก 1 ชั่วโมง
จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ 4 สถานี รวม 37 เส้นทาง คือ สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) 13 เส้นทาง ได้แก่ 3, 16, 26, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517 และ 536 สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) 8 เส้นทาง ได้แก่ 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511 สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) 6 เส้นทาง ได้แก่ 66, 79, 511, 515, 516 และ 556 สถานีรถไฟหัวลำโพง 10 เส้นทาง ได้แก่ 4, 7, 21, 25, 29, 34, 73, 73ก, 75 และ 501 และจัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยานดอนเมือง 5 เส้นทาง ประกอบด้วย สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร วันละ 15 คัน, สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันละ 8 คัน, สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี วันละ 6 คัน, สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง วันละ 6 คัน, สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง วันละ 8 คัน
ด้านมาตรการเพื่อความปลอดภัย มีการเตรียมความพร้อมของรถโดยสาร ขสมก.ได้เข้มงวดตรวจเช็คการซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามแผน และระเบียบปฏิบัติ โดยให้หัวหน้างานคอยย้ำเตือนพนักงานประจำรถให้ตรวจสอบสภาพรถ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเบรค ประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ การติดตั้งเครื่องดับเพลิง เป็นต้น การเตรียมความพร้อมของพนักงานประจำรถ ให้หัวหน้างาน ตรวจความพร้อมร่างกายของพนักงานประจำรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจใบอนุญาตขับขี่ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ตักเตือนพนักงาน ขับรถให้เปิดประตูเมื่อรถจอดสนิท และปิดประตูก่อนนำรถออกจากป้าย ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ไม่ขับปาดซ้ายปาดขวาหรือขับแข่งแซงกัน ไม่จอดแช่ป้าย เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด และให้ระวังผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน รวมถึงให้พนักงานเก็บค่าโดยสารช่วยดูแลอำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลงรถเมล์แก่ผู้ใช้บริการเป็นกรณีพิเศษ จัดพนักงานสายตรวจพิเศษ นายตรวจ ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณวัดที่รถวิ่งผ่าน และตามป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น.-สำนักข่าวไทย