ดีเอสไอ 31 ต.ค.-ดีเอสไอ จับผู้ค้าแว่นตาปลอมยี่ห้อดังรายใหญ่ ย่านคลองถมและคลองสาน รวมกว่า 40 ล้านบาท
พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายจาก บริษัทลูซอตติกา กรุ๊ป เอส.เอ.พี.ปิอัซซาเล่ คาดอร์มา จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าเรย์แบน (Ray Ban) และนายริชาร์ด รอดนี่ (Mr. RICHARD RODNEY ROSS) ตัวแทนผู้เสียหายบริษัทลีวาย เสตราซ์ แอนด์โค จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าลีวายส์ (Levi’s) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าประเภทแว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้าหลายยี่ห้อ เช่น ยี่ห้อเรย์แบน (Ray Ban) ลีวายส์ (Levi’s) กุชชี่ (GUCCI) พราด้า (PRADA) คาเทียร์(Cartier) โอคเล้ย์ (Oakley) หลุยส์วีตตอง (LOUIS VUITTON) ดิออร์ (Dior) เบอร์เบอร์รี่ (BURBERRY) ชาแนล (CHANEL) แอร์เมส (HERMES) แวน(Vans) ลาคอส(Lacoste) เป็นต้น
พันตำรวจเอกไพสิฐ กล่าวว่า กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอได้สืบสวนจนแน่ชัดว่ามีการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายแว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้ายี่ห้อต่าง ๆ ในย่านคลองถม จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งศาลได้อนุมัติให้ทำการค้นสถานที่เก็บสินค้าจำนวน 3 จุด ในย่านคลองถมและย่านคลองสาน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา
ผลการตรวจค้นพบแว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบแว่นตาที่หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรอีกจำนวนมาก รวมแว่นตาของกลางทั้งหมดประมาณ 210,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท โดยจับกุมนายหลิง จื้อ จู สัญชาติจีน เป็นเจ้าของและผู้ครอบครองสถานที่ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 พร้อมเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องของการฟอกเงิน และเส้นทางการเงินว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ด้านนางมาลา ตั้งประเสิรฐ ตัวแทนบริษัทลูซอตติกา กรุ๊ป เอส.เอ.พี.ปิอัซซาเล่ คาดอร์มา จำกัด กล่าาวว่า จากการติดตามการทำงานจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของดีเอสไอ ครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอ มูลค่าความเสียหายที่คิด 40 ล้าน เพียงแค่ประมาณราคาขายที่ชิ้น 200 บาท ถ้าตีเป็นราคาขายจริง คงจะคำนวนไม่ถูก ส่วนตัวหลังเห็นการจับกุมครั้งนี้อยากจะให้ดีเอสไอเชิญกรมศุลกากรมาดูด้วย และอยากจะถามว่าปล่อยให้สินค้าล็อตใหญ่แบบนี้ผ่านด่านมาได้อย่างไร และหลังจากนี้จะรายงานไปยังบริษัทแม่ยังต่างประเทศ เพราะทุกวันนี้บริษัทต่างประเทศคาดหวังกับการจัดการสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของไทยอย่างมาก ผลงานครั้งนี้เชื่อจะทำให้เจ้าของสบายใจ และเพิ่มความเชื่อมั่นการทำงานของทางการไทยได้ในระดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย