สมุทรสงคราม-กระบี่ส่งเทพเจ้าขึ้นสวรรค์ สิ้นสุดเทศกาลกินเจ

ภูมิภาค 29 ต.ค.-ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนนุ่งห่มขาวร่วมพิธีเดินธูปที่ศาลเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยกง และพิธีเผาเรือสำเภามังกร 9 ตัว ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศ ส่งเทพเจ้ากิ้วอ้วงฮุกโจ้วขึ้นสวรรค์ เช่นเดียวกับศาลเจ้าเก่าแก่ใน จ.กระบี่ ทำพิธีส่งองค์เทพเจ้าที่บริเวณปากแม่น้ำกระบี่ โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีนร่วมพิธีจำนวนมาก ถือเป็นการสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินเจ


เมื่อเวลา 23.39 น. คืนที่ผ่านมา (28 ต.ค.) ที่ศาลเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยกง ต.บ้านปรก อ.เมืองสมุทรสงคราม เทพเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยกงได้นำศิษยานุศิษย์ทั้งชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนที่แต่งชุดขาว ร่วมพิธีเดินธูปรอบศาล จำนวน 3 รอบ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา และยังเป็นการเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้ชีวิตตนเองและครอบครัวรวมทั้งฝึกจิตใจให้สงบร่มเย็น


นอกจากนี้ ยังเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งอีกด้วย จากนั้นได้ข้ามสะพานศุภมงคลปทีปขึ้นไปขอพรต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดตามความเชื่อของชาวจีน ที่จะประทานพรให้ผู้เข้าร่วมถือศีลกินเจประสบความสำเร็จและมีโชคลาภตลอดปีหน้าและรอดพ้นต่อภัยต่างๆ โดยมีชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนนุ่งห่มขาวร่วมพิธีกันเกือบ 1,000 คน


จากนั้นชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนได้ร่วมพิธีปล่อยเรือสำเภาที่ประทับเทพเจ้าที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สมุทรสงคราม และคาดว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างเหมือนเรือสำเภาจริงขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 16 เมตร สูง 6 เมตร โดยปีนี้ศาลได้ร่วมน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยตกแต่งลวดลายเรือเป็นมังกร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์จีน 9 ตัว ประกอบด้วยข้างเรือ ด้านละ 2 ตัว รวม 4 ตัว ข้างเก๋งเรือด้านละ 2 ตัว รวม 4 ตัว และท้ายเรืออีก 1 ตัว รวมทั้งสิ้น 9 ตัว โดยเผาเรือดังกล่าวกลางแม่กลอง พร้อมเครื่องบูชาต่างๆ เช่นโคมไฟ, ชุดเทพเจ้า, แจกัน, กระดาษเงิน,กระดาษทองนับหมื่นชิ้น รวมมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท และยังจุดประทัดกว่า 1 ล้านนัด ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันถวายส่งเทพเจ้ากิ้วอ้วงฮุกโจ้วขึ้นสวรรค์ ตามความเชื่อของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นอันสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินเจประจำปี 2560

ส่วนที่ จ.กระบี่ เมื่อเวลา 19.39 น.วันที่ 28  ต.ค.60 เป็นคืนสุดท้ายของงานประเพณีถือศีลกินผัก ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 21-28 ต.ค.60 รวม 9 วัน 9 คืน ซึ่งวันนี้เป็นคืนสุดท้ายของเทศกาลกินเจปีนี้ คณะกรรมการศาลเจ้าจ้อซู้ก๋ง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ใน จ.กระบี่ ได้ร่วมกันประกอบพิธี ส่งองค์ยกฮ่องซ่งเต้ (พระอิศวร) และองค์กิ๋วอ๋องไต่เต่ (องค์เก้าราชัน ซึ่งถือว่าเป็นเทพสูงสุดของการถือศีลกินผัก) กลับสู่สรวงสวรรค์ที่บริเวณท่าเทียบเรือประติมากรรมปูดำ ปากแม่น้ำเทศบาลเมืองกระบี่ โดยนั่งเรือไปทำพิธีที่กลางแม่น้ำใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถือเป็นการสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินเจ   โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีน ผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก แต่ระหว่างที่ทางที่ประกอบพิธีไม่มีการจุดประทัดแต่อย่างใด มีเพียงการสวดมนต์เท่านั้น

นายยศธร เอ่งฉ้วน ประธานศาลเจ้าจ้อซู้ก๋ง ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดใน จ.กระบี่ เปิดเผยว่า พิธีส่งพระเป็นการอัญเชิญส่งเสด็จเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ โดยไฟทุกดวงในบริเวณศาลเจ้าจะดับลง แล้วปิดประตูใหญ่ทางออกของศาล เมื่อส่งเสด็จองค์เทพกลับสวรรค์แล้ว หลังจากนี้ ถือเป็นวันสิ้นสุดการกินเจ สาธุชนสามารถบริโภคอาหารได้ตามปกติ 

สำหรับพิธีถือศีลกินผักของศาลเจ้าจ้อซู้ก๋ง จัดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 71 ปี แล้ว เพื่อขัดเกลาจิตใจของลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาช้านาน การถือศีลกินเจนั้น เป็นการงดเว้นการฆ่าสัตว์ บริโภคได้เฉพาะผัก เมื่อไม่มีการฆ่าหรือทำร้ายสัตว์ ทำให้จิตใจเกิดความเกิดความสงบสุขุม เมตตา  อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว ไม่โมโหง่าย ซึ่งจะช่วยเกื้อกูลส่งเสริมให้บารมีธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อสุขภาพและได้บุญกุศลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]