รัฐบาลติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่

กรุงเทพฯ 28 ต.ค.-รัฐบาลติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่ ยันไม่มีน้ำท่วมใหญ่เหมือนในอดีต เตือนประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารในโซเชียล


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยได้รับรายงานว่าปริมาณน้ำเหนือที่ จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลง และก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ ช่วยลดปริมาณน้ำและเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด

“นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงเรื่องการส่งต่อข้อมูลกันในโซเชียลมีเดีย โดยย้ำว่าแม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มขึ้นและเอ่อล้นเข้าท่วมบางพื้นที่ใน จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา รวม 14 จุด และน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ไหลลงมาถึง จ.ปทุมธานี นนทบุรี และ กทม.แล้ว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อย่างที่เป็นข่าว โดยปริมาณน้ำที่สถานีระบายน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีอัตราการไหลเฉลี่ย 2,826 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งยังต่ำกว่าความจุของลำน้ำ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เช่นเดียวกับคลองรังสิตที่แม้จะต้องรับน้ำจากแม่น้ำป่าสัก แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมน้ำผ่านอาคารบังคับน้ำและสถานีสูบน้ำได้ จึงไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว


พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า อยากให้ประชาชนระมัดระวังการส่งต่อเอกสารราชการที่เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ เนื่องจากมีการตีความเนื้อหาที่ผิดพลาด ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วข้อความส่วนใหญ่ที่ปรากฏในเอกสารนั้น มุ่งเน้นการแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบข่าว เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ล่วงหน้าและแนวทางการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นสำคัญ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่ประสบภัยในขณะนี้ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กองทัพเรือ และจังหวัด ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด โดยใช้เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเรือผลักดันน้ำ ขณะเดียวกันได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนแบบเฉพาะหน้า เช่น การอพยพ การมอบถุงยังชีพและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมมอบเงินชดเชยความเสียหายแก่ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตามระเบียบของทางราชการต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย