สนามหลวง 27 ต.ค.-รอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในช่วงบ่ายประชาชนทยอยออกจากพื้นที่เกือบหมด เหลือเพียงบางคนที่ยังคงอยู่เก็บภาพความทรงจำด้านในตามจุดต่างๆ ก่อนเดินทางกลับ
นางทัศนี กาญจนรัตน์ อายุ 59 ปี ชาวกรุงเทพฯ เปิดเผยขณะนั่งรอรถกลับบ้านว่า เดินทางเข้ามาร่วมงานตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. และได้ผ่านจุดคัดกรองเข้ามายังด้านในวันที่ 26 ต.ค.โดยจุดที่นั่งแม้มองเห็นริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศไม่ชัดมากนัก แต่ก็รู้สึกดีใจและตื้นตันใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน พระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ ซึ่งระหว่างที่ขบวนผ่าน ความรู้สึก ณ ขณะนั้น แทบหยุดหายใจ อธิบายไม่ถูก หลายครั้งที่บังคับไม่ให้น้ำตาใหล แต่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งการร้องไห้สำหรับเธอไม่ได้แปลว่า เศร้าโศกเสียใจแต่สื่อถึงความดีใจ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีส่วนร่วมส่ง พระผู้เสด็จสู่สวรรคคาลัย
อย่างไรก็ตามแม้ประชาชนจะออกจากพื้นที่จนหมดแล้วแต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในมณฑลพิธีและโดยรอบอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับจิตอาสา ช่วยผู้พลัดหลง ที่ยังคงทำหน้าที่ประสานงาน ติดต่อหาคนหายให้กับประชาชนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
นางสาว พิพัฒฒ์ศิตา พาณิชยกิต และ นายธนธิศ เชื้อปะทุม จิตอาสา เปิดเผยว่า ก่อนช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเริ่มต้นจากมอเตอร์ไซค์จิตอาสาที่คอยรับส่งประชาชนแล้วพบเห็นการพลัดหลงเป็นจำนวนมากประกอบกับในช่วงพระราชพิธีงดให้มีมอเตอร์ไซค์ จิตอาสาจึงรวมตัวกัน ตั้งโครงการช่วยผู้พลัดหลง ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พบผู้พัดลงมากกว่า 10 รายและบางส่วนยังอยู่ระหว่างการติดตามหาญาติ
ขณะที่บริเวณอุโมงค์ดอกไม้เพื่อพ่อ ย่านปากคลองตลาด ประชาชนเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมความงดงามของดอกไม้อย่างต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าชมวันนี้เป็นวันสุดท้ายจนถึงเวลา 22.00 น..-สำนักข่าวไทย