ศาลสั่งบ.อุตสาหกรรมการบินชดใช้เงินแก่ครอบครัว นรต.ฝึกโดดร่มไม่กางดับ

กรุงเทพฯ 18 ต.ค.- ศาลแพ่งสั่ง บ.อุตสาหกรรมการบินและเจ้าหน้าที่ ชดใช้เงิน 2,750,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับครอบครัว”พุทธชัยยงศ์”สูญเสียบุตรชาย นรต.เสียชีวิตขณะฝึกโดดร่ม ฐานสั่งสายสลิงกระตุกร่มที่ไม่ได้คุณภาพติดตั้งบนเครื่องบิน ส่วน บ.การบินไทย ยกฟ้อง



ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษา คดีนายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนายชยากร นักเรียนนายร้อยตำรวจ กระโดดร่มไม่กาง ยื่นฟ้อง บริษัท การบินไทย จำกัด จำเลยที่ 1 , บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด จำเลยที่ 2และเจ้าหน้าที่จัดซื้อสายสลิงกระตุกร่ม , เจ้าหน้าติดตั้งสายสลิง และซ่อมบำรุงรวม 10 ราย ให้ชดใช้เงิน ค่าเสียหาย จำนวน 40 ล้านบาท เป็นค่าจัดการศพ และค่าขาดไร้ผู้อุปการะ โดยคดียื่นฟ้องเมื่อปี 2559  โดยวันนี้ นายสาธร และครอบครัวมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ 


ขณะที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัดจำเลยที่ 2 และพนักงานซึ่งเป็นผู้จัดหาแหล่งซื้อสายสลิงจำเลยที่ 9 ได้กระทำผิดละเมิดต่อนายสาธร โจทก์ ที่เป็นบิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร โดยนำสายสลิงกระตุกร่มที่ไม่ได้คุณภาพมาติดตั้งบนเครื่องบิน จนทำให้เมื่อนายชยากรกระโดดร่มแล้วไม่กระตุกร่มหลักให้กางจนตกลงมาเสียชีวิต

ศาลจึงพิพากษา ให้ บจก.อุตสาหกรรมการบิน จำเลยที่ 2 และพนักงาน จำเลยที่ 9 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน  2,750,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับนายสาธรบิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร ผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.59 ซึ่งเป็นวันหลังจากวันฟ้องคดีนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งให้ชำระค่าทนายความแทนโจทก์ด้วยอีก 10,000 บาท

ส่วนบริษัทการบินไทย จำเลยที่ 1 และพนักงานคนอื่น ที่ตกเป็นจำเลยที่ 3-8 และที่ 10 นั้นศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้กระทำการอันเป็นการประมาทเลินเล่อ จนทำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจชยากรต้องเสียชีวิต


นายสาธร ระบุว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนคดีถึงชั้นศาลไม่มีหน่วยงานใด เสนอให้การเยียวยา นอกจากนี้ยังมีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์มาข่มขู่เอาชีวิตอีก ซึ่งขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งจากการฟังคำพิพากษาแล้ว เคารพในคำตัดสิน แต่ในส่วนที่ชี้ว่าลูกชายมีส่วนผิด เพราะไม่ดึงร่มช่วยตนเองตามวิธีการที่ฝึกมา ในส่วนนี้ไม่เห็นด้วยเพราะลูกชายได้เสียหลักชนครูฝึกหกล้ม เนื่องจากลวดสลิงขาดทำให้ออกจากเครื่องบินไม่ใช่ท่าที่ฝึกซ้อมมา จึงไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ร่มกางได้ นอกจากนี้จะเห็นได้จากเพื่อนที่ร่วมกระโดดร่มในครั้งนั้นเสียชีวิตและบาดเจ็บ  ทั้งนี้จะสู้ต่อไปเพื่อรักษาชีวิตของคนให้มีคุณภาพ 

ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยว่า  เตรียมยื่นอุทธณ์ในคดีแพ่งต่อ ส่วนคดีอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาสั่งฟ้องจำเลยอีก 2 คน ที่เป็นกรรมการอุตสาหกรรมการบิน และคนจัดซื้อลวดสลิง ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องก่อนหน้านี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส