ศาลไม่ให้ประกันแก๊งแอบอ้างเจ้ามอญหลอกเหยื่อสูญรวมร้อยล้าน

ศาลไม่ให้ประกันแก๊งแอบอ้างเจ้ามอญหลอกเหยื่อสูญรวมร้อยล้าน

กทม.12 ต.ค.- ศาลไม่ให้ประกันแก๊งแอบอ้างเจ้าแห่งรัฐมอญ 6 คนร่วมกันหลอกนักธุรกิจร่วมลงทุนใน 78 โครงการที่อุปโลกน์ขึ้นมาสร้างความเสียหายนับร้อยล้านบาท ส่งตัวเข้าเรือนจำ


พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำตัวนางสุภัตทา จันทรรังษี พร้อมนายวิชัย พริ้งจำรัส หรือเจ้าเทพประสันติ มหาทุน, นายธนจักษ์ หรือสุพิช กลม, นางสาวปิยะวรรณ หรือพรพนา อุดหนุน, นายปริชาติ เพ็งผ่าน, นางชลัยภัสร์ โพธิอัครานนท์ ผู้ต้องหาที่ 1-6 คดีฉ้อโกงประชาชน มาฝากขังศาลผัดแรก ทั้งหมดให้การปฏิเสธ


คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ระหว่าง 10 ม.ค. 2559 – 4 ต.ค. 2560 นางสุภัตทา ซึ่งเป็นกรรมการ บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด และนายกู มิน อู หรือฯพณฯเจ้าเทพโยทินมหาทุน,นายวิชัย,นายธนจักษ์,นางสาวปิยะวรรณ และนางชลัยภัสร์ ผู้ต้องหากับพวกที่ยังหลบหนี แบ่งหน้าที่กันทำและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จในเรื่องการเป็นกษัตริย์แห่งรัฐมอญของพณฯเจ้าเทพโยทินมหาทุน และมีบุตรบุญธรรมชื่อเจ้าเทพประสันติ มหาทุน เป็นรัชทายาทรัฐมอญ รวมทั้งสร้างเรื่องเท็จว่า มีการร่วมกิจการไทย-มอญ ระหว่างบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัดกับบริษัท ทิ พยู ไพล์ จำกัด ของนายกอว มินต์ อู ว่ากิจการดังกล่าวได้รับอนุมัติโครงการขนาดใหญ่จากรัฐบาลเมียนมาร์ จำนวน 78 โครงการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนและพวก นำไปใช้หลอกลวงนักธุรกิจและ ประชาชนทั่วไป ให้หลงเชื่อจนสูญเสียเงินในการเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก โดยมีการนำข้อมูลเท็จดังกล่าวเข้าสู่เพจเฟซบุ๊กและไลน์กลุ่ม ชื่อ “สามัคคี คือพลัง” ที่สร้างขึ้นรวมทั้งมีการนำข้อมูลเท็จลงในสื่อออนไลน์ของหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ที่มีนายโกสินธ์ จินาอ่อนเป็นบรรณาธิการบริหาร โดยมีนางสุภัตทา และฯพณฯเจ้าเทพโยทินมหาทุน ทำหน้าที่สร้างข้อมูลเท็จให้มีความน่าเชื่อถือ โดยมีการดำเนินกิจกรรมต่างๆให้ประชาชนทั่วไปเชื่อถือ ว่านายกอว มินต์ อู เป็นกษัตริย์รัฐมอญจริง และมีการแอบอ้างใช้ชื่อแทนตัวเองว่าพณฯเจ้าเทพโยทินมหาทุน นอกจากนี้ยังมีการนำนักธุรกิจไปดูพื้นที่ ที่อ้างว่าเป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสหภาพเมียนมาร์ เพื่อเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจากนักธุรกิจ รวมทั้งมีการจัดแถลงข่าวให้ข้อมูลเท็จต่อสื่อมวลชนทั้งที่จริงแล้วโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่มีอยู่จริง โดยผู้ต้องหามีการกล่าวอ้างถึงเอกสารที่มีตราสีทองประทับอยู่โดยบอกว่าเป็นตราอนุญาตโครงการจากรัฐบาลกลางเมียนมาร์ ซึ่งพยานหลายรายยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่เป็นความจริง การกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหากับพวกที่หลบหนี้ทำให้ได้รับเงินสดและทรัพย์สินจากผู้เสียหายหลายราย นับ100ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวง โดยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช้การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเท็จตามพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา14 (1) (5) และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343,341 ประกอบมาตรา 83 ,91 เหตุเกิด ทั่วราชอาณาจักรไทยและนอกราชอาณาจักรไทย ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ จะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว และการสอบสวนยังไม่เสร็จ จะต้องสอบปากคำพยานบุคคลเพื่อขยายผลเครือข่ายผู้กระทำผิดอีก20 ปาก และผู้เสียหาย รวมทั้งรอผลตรวจสอบข้อมูลการเงินและแหล่งที่มาของเงินฝาก รอผลตรวจประวัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รอผลพิสูจน์หลักฐานและอื่นๆ จึงขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 ต.ค.นี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีเจตนาเดินทางออกไปต่างประเทศ เกรงว่าจะหลบหนี การกระทำความผิดมีลักษณะเป็นกระบวนการ เป็นเครือข่ายมีการติดต่อกับบุคคลในต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี เชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนและคดีมีอัตราโทษสูงจำคุกถึง 5 ปี และมูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้านบาท

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ต่อมาญาติ ของนายปริชาติ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ล่าสุดศาลพิเคราะห์แล้วคดีนี้ผู้ต้องหาคือ นายปริชาติ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันหลอกลวงประชาชน มูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้านบาท หากผู้ต้องหาจะยื่นข้อประกันตัวจะต้องนำหลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท มาเสนอต่อศาล ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้องต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวผู้ต้องหาชายหญิงทั้ง 6 ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและทัณฑสถานหญิงกลาง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]