พระนคร 11 ต.ค.-วธ.นำคณะทูต 65 ประเทศชมพระเมรุมาศ-ราชรถ สร้างความเข้าใจโบราณราชประเพณี – มรดกทางวัฒนธรรม หนึ่งเดียวในโลก เผยแพร่พระเกียรติสู่นานาชาติ
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการต้อนรับคณะทูตานุทูตจาก 65 ประเทศ อาทิ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ บาร์เรน รวม 170 คน โดย วธ.ได้เชิญคณะทูตานุทูตเข้าเยี่ยมชมการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมมีการบรรยายให้ความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้เกี่ยวกับงานพระราชพิธีฯ โดย ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงษ์ อดีตปลัด วธ. ,น.ส.สาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ที่ปรึกษา วธ. , น.ส.ศุภวรรณ นงนุช ภัณฑารักษ์ชำนาญการ กรมศิลปากร และ นาย วุฒินันท์ จินศิริวานิชย์ มัณฑณากร
รมว.วธ. กล่าวว่า การเชิญคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆเข้าชมพระเมรุมาศ ราชรถและพระยานมาศครั้งนี้ เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรียนรู้ขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณีสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นภูมิปัญญาอันล้ำค่าหนึ่งเดียวในโลกของไทยที่มีการสืบทอดและอนุรักษ์ไว้ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมนำพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 เผยแพร่สู่ระดับนานาชาติ
ขณะที่การเข้ารับฟังบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องคติความเชื่อไตรภูมิ ซึ่งเป็นพื้นฐานการก่อสร้างออกแบบพระเมรุมาศให้กับคณะฑูต ผ่านหลักฐานภาพลายเส้นพระมหาพิชัยราถรถในการอัญเชิญพระโกศพระบรมศพสมัยสมเด็จพระเพทราชา กรุงศรีอยุธยาฯ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดอายุกว่า 300 ปี สะท้อนถึงความเก่าแก่ของงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพด้วย
นาย Asim Iftkhar Ahmad เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย กล่าวภายหลังเยี่ยมชมราชรถและพระยานมาศ ว่า เป็นงานศิลปกรรมที่สง่างามมากและรวมองค์ความรู้ด้านศิลปะทุกแขนงไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสมพระเกียรติ ในหลวง ร.9 สะท้อนถึงความจงรักภักดีที่คนไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มายาวนาน .-สำนักข่าวไทย