กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – ธนาคารออมสินเตรียม 10,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ พร้อมโปรโมชั่นดอกเบี้ยร้อยละ 0 นาน 2 ปี ยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 มีมติเห็นชอบมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีเรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) ที่ธนาคารออมสินได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังให้ดำเนินการรวมอยู่ด้วย ซึ่งกำหนดแนวคิดต้องการให้ผู้สูงอายุที่มีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระหนี้และเป็นเจ้าของบ้าน มีรายได้ในการดำรงชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และลดภาระทางการคลังของรัฐบาลระยะยาว ซึ่งธนาคารออมสินเตรียมวงเงิน 10,000 ล้านบาท เปิดให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เหมาะกับการนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการกู้ครั้งนี้ ซึ่งธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท รวมถึงเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และค่าจดจำนอง คิดอัตราดอกเบี้ย MRRลบร้อยละ 1 ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารออมสิน อยู่ที่ร้อยละ 7.00 ต่อปี) โดยผู้กู้ที่ได้รับการอนุมัติช่วงเปิดตัวนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 ธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ย 2 ปีแรก พร้อมกับยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ และเลือกรับ Gift Card Home Pro มูลค่า 1,000 บาท หรือ เครื่องวัดความดันโลหิต 1 เครื่อง หรือบัตรออมสิน GSB VISA Debit Smart Care วงเงินคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท
ทั้งนี้ ธนาคารฯ จะเริ่มต้นโครงการด้วยการปล่อยกู้ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม และส่วนภูมิภาคจะเปิดให้บริการในเขตอำเภอเมืองก่อน เพื่อประเมินผลติดตามผล ก่อนจะทยอยขยายให้กู้ได้ทั่วประเทศต่อไป สำหรับคุณสมบัติผู้กู้นั้น จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี กู้ร่วมได้เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมายที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันร่วมกัน โดยผู้กู้จะต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หลักประกันต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลักของผู้กู้ และต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้รับเงินกู้ กรณีใช้ที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ หากใช้ห้องชุดให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ (ราคาประเมินไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท)
สำหรับการจ่ายเงินกู้ ธนาคารฯ จะจ่ายเงินกู้ให้ผู้กู้เป็นรายเดือนนำเข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ ระยะเวลาจ่ายเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 25 ปี แต่รวมระยะเวลาจ่ายเงินกู้กับอายุของผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 85 ปี เมื่อครบระยะเวลากู้ตามสัญญาแล้วผู้กู้สามารถชำระหนี้ปิดบัญชี หรือสามารถกู้เงินเพิ่มตามเงื่อนไขที่ธนาคารฯ กำหนด หากไม่กู้เพิ่มหรือปิดบัญชี ผู้กู้สามารถอาศัยอยู่ในบ้านต่อไปได้จนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิต กรณีผู้กู้เสียชีวิต ธนาคารฯ จะให้สิทธิ์ทายาทชำระหนี้ปิดบัญชี หากทายาทไม่ปิดบัญชี ธนาคารฯ จะขายหลักประกันเพื่อชำระหนี้ปิดบัญชี หากชำระหนี้ไม่พอแต่สามารถชำระต้นได้ ให้ถือว่าเป็นการชำระหนี้เสร็จสิ้น โดยไม่ต้องดำเนินการ สืบทรัพย์อื่นของลูกหนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เป็นสินเชื่อรูปแบบใหม่สำหรับประเทศไทย เงื่อนไขหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกับเงินกู้ทั่วไป ธนาคารฯ จึงต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงินกู้ประเภทนี้ โดยกำหนดให้ผู้กู้ คู่สมรส ทายาทของผู้กู้ ต้องได้รับคำแนะนำเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการให้สินเชื่อประเภทนี้อย่างชัดเจนก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อโต้แย้งในภายหลัง พร้อมทั้งลงนามในแบบฟอร์มการได้รับคำปรึกษาสินเชื่อทุกคนด้วย.-สำนักข่าวไทย