สนามหลวง 7 ต.ค. – การซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในสถานที่จริงครั้งแรก ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขณะนี้การเคลื่อนริ้วขบวนที่ 2 เสร็จสิ้นแล้ว และริ้วขบวนเคลื่อนเข้าสู่ท้องสนามหลวง อยู่ระหว่าง ริ้วขบวนที่ 3 การเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ ประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ ก่อนเวียนพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ 3 รอบ และเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานบนพระเมรุมาศ
โดยก่อนหน้านี้ในการเคลื่อนริ้วขบวนที่ 1 พระยานมาศวามลำคานอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ ออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ออกจากประตูเทวาภิรมย์ ไปยังหน้าพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จากนั้นในริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ จากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปทางถนนสนามไชย ยาตราขบวนแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ เข้าสู่ท้องสนามหลวง รวมระยะทาง 890 เมตร จุดนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ขณะที่บริเวณหน้าศาลฎีกา มีประชาชนเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อรอชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศจนเต็มพื้นที่ ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จิตอาสา ดูแลความเรียบร้อยของสื่อมวลชนและประชาชนโดยรอบบริเวณ
โดยหลังจากการซ้อมในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินสถานการณ์ ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก่อนให้ข้อสรุปในการซ้อมย่อยอีก 2 ครั้ง คือวันที่ 15 และ 21 ตุลาคม 2560 ต่อไป
ซึ่งระหว่างพิธีซ้อมริ้วขบวนในสถานที่จริงครั้งแรก เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนมาร่วมชมตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา โดยเข้าจุดคัดกรอง 3 จุด คือ ท่าช้าง รร.รัตนโกสินทร์ และธรรมศาสตร์ แต่จุดที่สะดวกที่สุด คือ จุดคัดกรองธรรมศาสตร์ และ รร.รัตนโกสินทร์ และจะได้เข้ามาอยู่บริเวณบาทวิถี ถนนราชดำเนินใน พระแม่ธรณีบีบมวยผม ยาวไปจนถึงบริเวณหน้าศาลฎีกา และบริเวณเส้นทางเข้าสู่จุดกลางสนามหลวง ซึ่งเป็นอีกจุดที่ได้เห็นริ้วขบวนและชมความงดงามของเมรุมาศและอาคารประกอบพระเมรุมาศใกล้ ๆ ที่ผ่านการจัดสร้างโดยสุดยอดช่างศิลป์ไทยแห่งยุคสมัยนี้. -สำนักข่าวไทย