สปสช.จัดชี้แจงหลักเกณฑ์-บริหารบัตรทอง ปีงบฯ 61

สปสช.6 ต.ค.-สปสช.ประชุมชี้แจง ‘หลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารงบบัตรทอง ปีงบฯ 2561 มุ่งสร้างความเข้าใจหน่วยบริการทั่วประเทศ’


นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2561 ให้กับผู้เกี่ยวข้องได้แก่ หน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วม เพื่อทำความเข้าใจในการจัดสรรงบประมาณให้ไปในทิศทางเดียวกัน 


นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและได้จัดสรรงบประมาณอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง โดยมีกลไกสำคัญคือหน่วยบริการต่างๆเหล่านี้ 


ด้านนพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่าสำหรับงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2561 มีจำนวน 171,373.67 ล้านบาท(ไม่รวมเงินเดือนหน่วยบริการภาครัฐ) ได้มีการจัดสรรดังนี้ 

1.บริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว 156,019.62 ล้านบาท ดูแลประชากร 48 ล้านคน  คิดเป็นบริการผู้ป่วยนอกทั่วไป 1167.41 บาทต่อประชากร ผู้ป่วยในทั่วไป 1113.93 บาทต่อประชากร   สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 415.55 บาทต่อประชากร ฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ 16.13 บาทต่อประชากร   แพทย์แผนไทย 11.61 บาทต่อประชากรเป็นต้น

2. บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 3218.24 ล้านบาทดูแลผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ 296,900 ราย

3. บริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 8165.60 ล้านบาทดูแลผู้ป่วย 52,976 ราย

4. บริการควบคุมป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง 1019.20 ล้านบาทดูแลผู้ป่วย 2,907,200 ราย

5. ค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่กันดารเสี่ยงภัยและจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1490.28 ล้านบาทสำหรับหน่วยบริการ 175 แห่งในพื้นที่

6. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุ 1159.20 ล้านบาทเพื่อดูแลผู้สูงอายุ 193,200 ราย

7. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยปฐมภูมิของหมอครอบครัว 240 ล้านบาทเพิ่มการเข้าถึงบริการผู้ป่วยนอกทั้งในและนอกเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มเติม 652,173 ครั้ง     

ทั้งนี้ ภาพรวมการจัดสรรงบบริการทางการแพทย์ส่วนใหญ่ได้ปรับเพิ่มจากปี2560 ส่วน สิทธิประโยชน์ที่มีการเพิ่มขึ้นคือ บริการคัดกรองและตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซีในกลุ่มเสี่ยง บริการตรวจคัดกรองตรวจยืนยันมะเร็งลำไส้ใหญ่ในกลุ่มอายุ 50 ถึง 70 ปีเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท